เมื่อวันที่ 30 พ.ย. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รรท.ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.สุวัฒชัย ศรีทองสุข ผกก.1 บก.สอท.2 พ.ต.ท.สมพร ชูนุ่น สว.กก.บก.สอท.2 นำกำลังพร้อมหมายจับศาลอาญา ที่ 5779,5780/2567 ลงวันที่ 28 พ.ย.67 เข้าจับกุมหญิงชาว จ.กาญจนบุรี และหนุ่มแคเมอรูน ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน“
สืบเนื่องจากชุดสืบสวนกก.1 บก.สอท. ได้รับการร้องทุกข์จากบริษัทนำเข้าสินค้าประเทศมาเลเซียและบริษัทส่งออกสินค้าเกษตรของไทย ว่ามีกลุ่มคนร้าย จดทะเบียนพาณิชย์โดยใช้ชื่อ บริษัทแห่งหนึ่ง เพื่อให้มีชื่อตรงหรือคล้ายกับบริษัทส่งออกสินค้าเกษตรประเภทเนื้อสัตว์ ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกระทรวงเกษตรและความมั่นคงด้านอาหาร ของประเทศมาเลเซีย ตามที่มีชื่อประกาศในเว็ปไซต์ราชการของประเทศมาเลเซีย โดยทางบริษัทนำเข้าสินค้าของมาเลเซียรายดังกล่าว ได้โอนเงินในการสั่งซื้อสินค้าประเภทไก่สดแต่ไม่ได้รับสินค้า ทำให้เกิดความเสียหายเป็นเงิน จำนวน 3,577,806 บาท สร้างความเสียหายและความน่าเชื่อถือกับทางบริษัทที่ทำธุรกิจส่งออก
ทางตำรวจชุดสืบสวน กก.1 บก.สอท.2 จึงทำการสืบสวนเพื่อแกะรอยหาผู้กระทำผิดและผู้ร่วมขบวนการ จนพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องในการกระทำผิด จำนวน 2 ราย คือ หญิงชาวกาญจนบุรี มีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท อีกทั้งเป็นผู้โอนเงินให้กับผู้ร่วมขบวนการ และหนุ่มแคเมอรูนซึ่งเป็นผู้รับผลประโยชน์หรือได้รับเงินจากการโอนเข้าบัญชีธนาคารตามเส้นเงินจากการหลอกลวง
โดยพบหลักฐานว่าหญิงชาวกาญจนบุรีได้มีการลงทุนจดทะเบียนเปิดบริษัทใช้ชื่อคล้ายกับชื่อของบริษัทจริงที่ประกอบธุรกิจค้าเนื้อสัตว์ประเภทไก่สดรายใหญ่ ต่อมามีบริษัทซึ่งเป็นผู้เสียหายหลงเชื่อได้ติดต่อซื้อไก่สดจำนวนมาก เพื่อให้ส่งไปยังประเทศมาเลเซีย โดยหลังจากโอนเงินเข้าบัญชีของหญิงชาวกาญจนบุรี จากนั้นหญิงชาวกาญจนบุรี จะโอนเงินต่อไปเข้าบัญชีของหนุ่มแคเมอรูน โดยไม่ได้มีการส่งสินค้าให้ตามรายการสั่งซื้อแต่อย่างใด ก่อนทางบริษัทผู้เสียหายส่งตัวแทนเข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ เพื่อติดตามคนร้ายและผู้เกี่ยวข้องที่หลอกขายสินค้า
ต่อมาจึงทำการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้กระทำผิดทั้งสองราย โดยติดตามจับกุมหญิงชากาญจนบุรีได้ในพื้นที่ย่านวังทองหลาง กรุงเทพฯ ส่วน หนุ่มแคเมอรูน ติดตามจับกุมได้ในพื้นที่ย่านบางโพงพาง กรุงเทพฯ พร้อมตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย เงินสด 705,000 บาท ,สมุดบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาและบุคคลอื่นรวม 14 บัญชี ,พาสปอร์ต 2 เล่ม ,โทรศัพท์และแท็ปเล็ต 11 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 3 เครื่อง ,บัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิต 17 ใบ, 7. แฟลตไดร์ฟ 2 อัน นอกจากนี้ยังได้อายัดเงินในบัญชีธนาคารที่ใช้ก่อเหตุ จำนวน 2 ล้านบาท
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองยังให้การปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้กระทำผิด โดยตำรวจมีหลักฐานมัดตัวแน่นหนาในการเอาผิดกับผู้ต้องหาทั้งสองราย ก่อนควบคุมตัวดำเนินการตามกฎหมายต่อไป