การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำวันเสาร์ที่ 30 พ.ย.67 มีศึก "ลอนดอน ดาร์บี้" ระหว่าง เวสต์แฮม เจองานหนักเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล รองแชมป์เก่าที่กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
11/02/24 เวสต์แฮม แพ้ อาร์เซน่อล 0-6
29/12/23 อาร์เซน่อล แพ้ เวสต์แฮม 0-2
02/11/23 เวสต์แฮม ชนะ อาร์เซน่อล 3-1 / ลีก คัพ
16/04/23 เวสต์แฮม เสมอ อาร์เซน่อล 2-2
27/12/22 อาร์เซน่อล ชนะ เวสต์แฮม 3-1
01/05/22 เวสต์แฮม แพ้ อาร์เซน่อล 1-2
16/12/21 อาร์เซน่อล ชนะ เวสต์แฮม 2-0
21/03/21 เวสต์แฮม เสมอ อาร์เซน่อล 3-3
20/09/20 อาร์เซน่อล ชนะ เวสต์แฮม 2-1
07/03/20 อาร์เซน่อล ชนะ เวสต์แฮม 1-0
ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก
เวสต์แฮม
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 6 เสีย 2
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 0 แพ้ 2 ได้ 3 เสีย 7
อาร์เซน่อล
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 8 เสีย 3
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 2 ได้ 1 เสีย 4
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
เวสต์แฮม
เวสต์แฮม ของกุนซือ ฆูเลน โลเปเตกี เพิ่งจะบุกเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 ในลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงเตะ ยังคงไม่สามารถใช้บริการ โมฮัมเหม็ด คูดุส ซึ่งติดโทษแบนเป็นนัดสุดท้าย เช่นเดียวกับ นิคลาส ฟัลล์ครู้ก ซึ่งเดี้ยงและอยู่ในระหว่างพักรักษาตัวเพียงรายเดียวเท่านั้น คาดว่า โลเปเตกี เตรียมวางหมากในระบบ 4-2-3-1 โดยมี มิคาอิล อันโตนิโอ ออกสตาร์ทยืนเป้าล่าสกอร์และใช้ จาร์ร็อด โบเว่น, โตมาส ซูเซ็ค กับ ครีเซนซิโอ้ ซัมเมอร์วิลล์ เป็นสามประสานกลางรุกคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลังตามสูตร
ตัวแบน :
กองกลาง - โมฮัมเหม็ด คูดุส (8 นัด/2 ประตู)
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหน้า - นิคลาส ฟัลล์ครู้ก (3 นัด)
เวสต์แฮม (4-2-3-1) : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - อารอน วาน-บิสซาก้า, คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส, แม็กซิมิเลี่ยน คิลแมน, เอแมร์สัน พัลไมรี่ - ลูคัส ปาเกต้า, การ์ลอส โซเลร์ - จาร์ร็อด โบเว่น, โตมาส ซูเซ็ค, ครีเซนซิโอ้ ซัมเมอร์วิลล์ - มิคาอิล อันโตนิโอ
อาร์เซน่อล
อาร์เซน่อล ของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า เพิ่งจะบุกเอาชนะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 5-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสนาม ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก ทาเคฮิโระ โตมิยาสุ กับ เบ็น ไวท์ สองแข้งเดี้ยงค้างสต๊อค ซึ่งอยู่ในระหว่างพักรักษาตัวทั้งคู่ คาดว่า อาร์เตต้า เตรียมจัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยมี บูกาโย่ ซาก้า, ไค ฮาแวร์ตซ์ กับ กาเบรียล มาร์ตินเนลลี่ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าตาข่ายตามระเบียบ
ตัวแบน : -
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง - ทาเคฮิโระ โตมิยาสุ (1 นัด), เบ็น ไวท์ (9 นัด)
อาร์เซน่อล (4-3-3) : ดาบิด ราย่า - เยอร์เรียน ทิมเบอร์, วิลเลี่ยม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลแญส, ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ - มาร์ติน โอเดการ์ด, โธมัส ปาร์เตย์, ดีแคลน ไรซ์ - บูกาโย่ ซาก้า, ไค ฮาแวร์ตซ์, กาเบรียล มาร์ตินเนลลี่
วิเคราะห์
บอกเลยว่า "ลอนดอนดาร์บี้" ครั้งนี้ทางฝั่งของทีมเยือน อาร์เซน่อล ได้คืนชีพเต็มตัวเรียบร้อยแล้ว หลังได้ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ กลับมาเติมเต็มริมเส้นฝั่งขวา และก่อนหน้านี้ที่ได้ มาร์ติน โอเดการ์ด กลับมาสร้างสรรค์เกมกับคุมจังหวะของทีม เรียกว่าผลงานสองนัดล่าสุดทุกรายการโชว์เทพเต็มอัตรา ด้วยการคว้าชัยรวดและซัดยับรวมกันทั้งสิ้นกว่า 8 ลูก ถ้านี่คือ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทีมเดียวกับที่ถล่ม แมนฯซิตี้ 4-1 ขอบอกเลยว่าล่าสุดถูกขุนพล "ไอ้ปืนใหญ่" สอนเชิงถึงที่ 5-1 แบบไร้ข้อกังขา ฉะนั้นไม่แปลกที่เรตจะเปิดมาค่อนข้างสุดปลอก ขณะเดียวกันเจ้าถิ่น เวสต์แฮม เอาจริงๆ ก็ยังไม่ค่อยนิ่งเท่าที่ควร และยังมีปัญหากับการรับมือคู่แข่งที่เกมรุกคมๆ อยู่ ฟันธง! อาร์เซน่อล ชนะ 3-1
#ข่าววันนี้ #ข่าวกีฬา #ลอนดอนดาร์บี้ #พรีเมียร์ลีกอังกฤษ #PremierLeague #อาร์เซน่อล
