กรณีเหตุทะเลาะวิวาท ระหว่าง “นายอ่ำ” ผู้เช่าที่ดิน และ “นายฮาริด” หลานเจ้าของที่ดิน เหตุไม่พอใจที่นายฮาริดเชื่อมหลังคาโรงจอดรถหวั่นสะเก็ดไฟจะกระเด็นใส่รถ จนมีปากเสียงด่าทอกัน อ่ำพุ่งเข้าไปเหมือนจะทำร้ายฮาริด ต่อมาฮาริด ได้ชักปืนยิงจนอ่ำลงไปนอนกับพื้น งานนี้ทั้งสองฝ่ายพูดไม่ตรงกัน ฝ่ายฮาริดยันไม่ได้ต้องการยิงหมายชีวิต แต่ตั้งใจยิงลงพื้นสกัดกั้นอีกฝ่าย แต่เป็นฝ่ายอ่ำวิ่งเข้ามาจนกระสุนโดนขา อีกทั้งเคยโดนอ่ำต่อยจนโสร่งหลุด ฟันหักมาแล้ว ขณะที่อ่ำก็ตอบหนังคนละม้วน
รายการโหนกระแส วันที่ 29 พ.ย. 67 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 สัมภาษณ์ อ้อ ภรรยาอ่ำ ผู้บาดเจ็บ, มากับ ดร.ปรเมศวร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ ผู้ช่วยเหลือทั้งสองฝ่าย , แอน อยู่ในเหตุการณ์ อีกฝั่ง กัญญาณัฐ แม่ฮาริด ผู้ก่อเหตุ และ ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล
เรื่องราวเกิดอะไรขึ้น?
อ้อ : อยู่ที่นี่นานหลายปีแล้วค่ะ มาเช่าหออยู่ พอดีเราทำธุรกิจ รถเราเยอะ เลยเช่าหลายๆ ห้อง ทุกวันนี้เช่าหมดทุกห้อง เช่าให้พนักงานอยู่ ทีนี้เราจอดรถไม่พอ ก็ขอเช่าที่
แอน : กิจการเราเติบโตไปเรื่อยๆ เราก็จอดรถไม่พอ ทางพี่อ้อ พี่อ่ำ เลยเช่าพื้นที่พี่ชายคนโต ซึ่งเป็นที่ที่คุณอ่ำซื้อ ณ ปัจจุบัน เพื่อจอดรถ แล้วก็มีสิ่งปลูกสร้างเป็นสำนักงาน แกก็ไปอาศัยอยู่ที่นั่น
พวกคุณทำอาชีพอะไร?
แอน : ขนส่งค่ะ
ต้องหาที่จอดรถเยอะๆ คุณเลยเช่าที่เขา?
แอน : ตอนแรกเช่าหอพักอยู่ พอกิจการเติบโต ที่จอดไม่พอ ก็ไปเช่าที่จอดรถพี่ชายเขา แกก็สร้างสำนักงานอยู่ตรงนั้น เหมือนทางเขาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
เรื่องอะไร?
แอน : เรื่องที่จะไปซื้อที่ตรงนั้น ก็มีก่อกวนกันเรื่อยๆ
ดร.ปรเมศวร์ :เหมือนเพื่อนบ้านกระทบกระทั่งกันตลอดเวลา เท่าที่ผมฟังทั้งสองฝ่าย มีคดีความกัน 6 คดีแล้ว ฝั่งนี้แจ้งไป 3 ฝั่งโน้นแจ้งไป 3 หกคดีแล้ว คดียิงกันคือคดีที่ 7 ทางนี้เขาเล่าฝั่งมุมเขาว่า เขามาประกอบกิจการรถขนส่ง ต้องเช่าพื้นที่ให้ลูกน้องอยู่ยกหอ พื้นที่ที่จอดรถก็เช่ายกแปลง ทางฝั่งโน้นก็เหมือนมีคนมาอยู่ คนเยอะเสียงดังบ้าง ก็เลยมีประเด็นกันตลอดเวลา แต่ครั้งนี้หนักสุด ทุกครั้งแค่ต่อยตีกันบ้าง ด่ากันบ้าง
ทนายแก้ว : หกเรื่องที่ผ่านมาเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทะเลาะวิวาทกัน
ดร.ปรเมศวร์ : ล้วนๆ ครับ ตั้งแต่ปี 66 เป็นคดีแรก จนล่าสุด 23 พ.ย. 67
คุณอ้อซื้อที่ขาดจากพี่ชายของม๊ะ มีศักดิ์เป็นลุงของคนยิง ไม่ได้เช่า จากนั้นยังไงต่อ?
อ้อ : เขาไม่อยากให้เราซื้อค่ะ เขาก็พยายามหาเรื่องก่อกวนเรามาตลอด
ทำไมไม่อยากให้เราซื้อ?
อ้อ : หนูก็ไม่รู้ค่ะ
ซื้อแล้วแต่ไม่อยากให้ซื้อ คืออะไร?
กัญญาณัฐ : ม๊ะขออธิบายทั้งหมดเลยนะคะ ที่บอกว่าทางนี้ไปหาเรื่องตลอด จริงๆ ที่ทะเลาะกันมาไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นการซื้อที่ ในการมาเช่าอพาร์ทเมนต์ตั้งแต่แรก ม๊ะเป็นคนดูแลและเป็นคนแนะนำคุณอ่ำเองเพราะเห็นว่าโทรศัพท์หาลูกน้อง บางคนก็ไม่มา ก็บอกว่าเอางี้ เดี๋ยวถ้ามีห้องไหนออกจะให้คุณอ่ำเช่าเพื่อเรียกลูกน้องง่ายๆ เคาะประตูเรียกก็สามารถทำงานได้เลย ก็มาเช่าเรื่อยๆ จนครบ 29 ห้อง ซึ่งมีทั้งหมด 30 ห้อง อีกห้องเขาไม่ออก นี่เรื่องของห้อง พอเช่าเยอะสถานที่จอดรถก็ไม่พอ พี่ชายเป็นคนรักต้นไม้ เขาปลูกต้นพยุงไว้ เราก็เจรจากับพี่ชายว่าบังเดือนนึงมาให้คุณอ่ำเช่าสักเดือนละ 5-6 พัน ก็ดีกว่าต้นพยุงมันไม่มีรายได้ พี่ชายก็ตกลงให้เช่าที่แปลงสองไร่ตั้งแต่เดือนแรก
ตกลงเขาเช่าหรือเขาซ้อน?
กัญญาณัฐ : ตอนแรกเช่าค่ะ ทีนี้เช่าเสร็จแล้ว อาจราคาเพิ่มขึ้นมาหรืออะไรไม่รู้ เพราะเป็นระยะเวลา 2 ปีที่เช่า หลังจากเช่าแล้วพี่ชายมาบอกขายที่ ตอนแรกบอก 12 ล้านมาบอกกับพวกเรา เราก็บอกว่าถ้า 12 ล้านเรายังซื้อไม่ได้ ก็ลดมาเหลือ 10 ล้าน ตอนที่พูดคุณอ้อยังไม่ได้สร้างบ้าน แค่เช่าเฉยๆ ก่อน เราก็ไม่ได้มีประเด็นอะไร เพราะที่ตรงอื่นเราก็มีเยอะ ไม่ได้มีปัญหากันด้วย ไม่ได้ไม่พอใจว่าไม่ให้ขาย ทุกคนในครอบครัวบอกว่าเป็นสิทธิ์ของพี่ชายเขาจะขาย เราก็ไม่ได้ว่าอะไร อันนี้โทรหาพี่ชายได้เลย วันจันทร์ก่อนเกิดเรื่องเรายังไปนั่งกินข้าวด้วยกันเลย เราไม่ได้มีปัญหาตรงนี้ เราไม่ได้มีปัญหาเรื่องที่ดิน พอพี่ชายขายเขา ก่อนเกิดเหตุ คุณอ่ำมาพูดว่าเขาซื้อที่ตรงนี้หมดแล้ว 7.5 ล้าน ตอนเช่าเขามีการจัดงานของบริษัทสูงส่งทรัพย์เจริญ ไลน์มาว่าขออนุญาตถึง 5 ทุ่ม เราก็โอเค สักพักไลน์มาบอกว่าขอถึงเที่ยงคืน เราก็โอเค
ที่แปลงนี้ เมื่อก่อนเป็นพี่พี่ชายม๊ะ เขาปล่อยให้ฝั่งนี้เช่า ม๊ะเป็นคนเจรจาและดูแลให้ คุณอ้อไปเช่า แล้วก็สร้างบ้าน ตอนหลังก็ไปขอซื้อเขา พี่ชายม๊ะขายให้ในราคา 7.5 ล้าน?
กัญญาณัฐ : ตอนนี้ยังซื้อไม่เสร็จเพราะกำลังแต่งตั้งผู้จัดการมรดกก่อน เพราะที่ตรงนี้เป็นชื่อพี่สะใภ้กับพี่ชาย ซึ่งพี่สะใภ้เสียชีวิตไปแล้ว การแต่งตั้งผู้จัดการมรดกยังไม่ได้ขึ้นที่ศาลเรียบร้อย ยังไม่ได้โอน อยู่ในขั้นตอนการทำสัญญาซื้อขาย เพราะทีแรกพี่ชายบอกยังไม่ได้ขาย แต่เขาบอกว่าเขาเป็นผู้ชาย เป็นผู้นำศาสนา ที่ตรงนี้คุณอ่ำปลูกบ้านแล้ว สัญญากันแล้วว่าจะขาย จะถูกจะแพงบังก็ต้องขาย
จบที่ขาย ไม่มีปัญหา?
กัญญาณัฐ : ไม่มีปัญหา ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เรื่องที่เลย แต่อยู่ที่เสียงดังยามวิกาล ที่ทะเลาะกันตลอดมา ไปร้องศูนย์ดำรงธรรมด้วย
แต่ฝั่งนี้มองว่าฝั่งลูกชายม๊ะไม่พอใจที่เขาไปซื้อที่แปลงนี้มาจากพี่ชายของม๊ะ เขาเลยตามราวี?
อ้อ : ใช่ค่ะ ก็ครูเป็นคนพูดเองว่าอย่าซื้อที่ตรงนี้นะ ครูจะซื้อเอง
กัญญาณัฐ : ไม่ค่ะ ที่พูดอย่างนี้เพราะคุณอ่ำมาต่อยลูกครูบนบ้านแล้ว งานเดือนก.พ.ที่คุณเปิดบริษัท คุณขออนุญาตถึง 5 ทุ่ม แต่วันเสาร์นั้นคุณถึงเที่ยงคืนครึ่ง เราก็ไม่ได้ว่าอะไร เปิดเพลงเสียงดัง มีดนตรีมากระหึ่มหลังคากระพือ คือดังมาก เราโอเคว่าไม่เป็นไร วันอาทิตย์จัดอีกถึงเที่ยงคืนครึ่งอีก แล้วน้องสาวอยู่ข้างในเขาเดินขากะเผลกออกมา ทีแรกเขาโทรมาบอกให้ฮาริดไปดูสิ ทำไมเที่ยงคืนครึ่งเขายังไม่เลิก ฮาริดบอกไม่อยากออกไปเพราะเขาเมากันทั้งนั้นเลย น้องสาวเดินขากะเผลกออกมาบอกว่าพี่อ่ำคือดึกแล้ว ไม่ไหวแล้ว มีหลานมานอน 3-4 คน แล้วเด็กไม่ได้นอน
ม๊ะยืนยันว่าติดใจเรื่องเสียงดัง แต่คุณอ้อยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องเสียงดัง แต่เป็นเพราะคุณกับผัวจะซื้อที่แปลงนี้ ม๊ะก็จะซื้อที่แปลงนี้เหมือนกันจากพี่ชาย ทางนี้จะมาแย่งซื้อ?
อ้อ : ครูบอกเองว่าจะซื้อนี่คะ ครูพูดเอง ในคลิปก็มีด้วยค่ะ บอกว่าอ้อไม่ต้องซื้อหรอก ครูจะซื้อเอง ครูจะซื้อก่อน 3 วันด้วยซ้ำ มีคลิปด้วยค่ะ
เขาไม่พอใจเพราะคุณมาแย่งซื้อก่อน?
อ้อ : น่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ
ม๊ะจะซื้อที่แปลงนี้เหรอ?
กัญญาณัฐ : พูดจากความเป็นจริงเลยนะ ถามว่าทำไมคุยกันแบบนี้ ถ้าทุกคนมีความเป็นมนุษย์จริงๆ จะต้องเข้าใจว่าเวลาเราสื่อสารกันจะมีเหตุการณ์อะไรมาก่อน เหตุการณ์วันนั้นที่น้องสาวออกมาบอกว่าให้เบาเสียงได้มั้ย น้องสาวเข้าบ้านไป คุณอ่ำมาหาเรื่อง มาต่อยลูกบนบ้าน
อ้อ : เราจัดเลี้ยงบริษัท เสี่ยอ่ำรู้แล้วว่ามันเลยเวลา น้องสาวครูมาบอกก็รับเรื่องแล้วค่ะ เขาก็เลยอุ้มลูกสาวไปหาฮาริดไปขอโทษที่บ้านเรื่องเสียงดังค่ะ
แอน : ไปเคาะประตูขอโทษขอโพย วันนันมีลูกสาวคนเล็กไปด้วย เขาอุ้มลูกไปด้วยนะคะ
อ้อ : ไม่ได้ไปต่อยค่ะ
ม๊ะ : มีคลิปต่อย เราไปแจ้งความแล้วไปตกลงที่โรงพัก เราทำเอ็มโอยูที่โรงพักมาตกลงกันว่ายังไง ที่อ่ำขึ้นไปต่อยอ่ำขอโทษ ชายตบโต๊ะแล้วบอกว่าถ้าอ่ำเสียงดังอีกจะไล่ออก อ่ำก็เอาโฉนดมาให้ดูว่าไปซื้อที่แปลงอื่นแล้ว ผมจะย้ายออกไป คดีนี้ให้ยอมความ เพราะต่อยกันเที่ยงคืนครึ่ง ยามวิกาล เขาบอกจะไปอยู่ที่อื่นแล้ว แล้วบอกว่าเขาป่วยต้องถ่ายเลือดเป็นประจำ ครูก็มีความเห็นว่าเราต้องให้อภัยเขา เรื่องต่อยขอนะ ถ้าเขาเสียงดังก็จะให้ย้ายออกไป หลังเหตุการณ์วันนั้นเช้ามาก็มาพูด มาเถียงกันอีก กลางคืนพากู้ภัยมาอีก 4-5 คันรถมาจอด ขับมาดีๆ แต่พอมาถึงบ้านมาเปิดหวอตรงรอบๆ บ้าน
จริงมั้ย?
แอน : ไม่จริงค่ะ กู้ภัยเข้าไปเพื่อระงับเหตุ
กัญญาณัฐ : ระงับเหตุอะไร ไม่ได้มีเหตุอะไรเลยวันนั้น
แอน : เขาไปช่วยไกล่เกลี่ยค่ะ
ดร.ปรเมศวร์ : เพราะเขามีเรื่องทะเลาะกันตลอดเวลา
ลูกของม๊ะที่ไปยิงเขา มีเรื่องกับเสี่ยอ่ำ ต่อยกันตลอด เขาตามกู้ภัยมาระงับเหตุ ไม่ได้ตามกู้ภัยมางานเลี้ยงนะม๊ะ?
กัญญาณัฐ : วันนั้นยังไม่ได้ต่อย แต่กู้ภัยมาหาที่บ้าน
แอน : มาเพื่อไกล่เกลี่ยนี่แหละค่ะ
อ้อ : เสี่ยไม่ได้ไปขอซื้อที่นะคะ ธรรมนูญ (พี่ชายม๊ะ) มาขายเองค่ะ เพราะเราซื้อที่ใหม่แล้วค่ะ แต่เขามาเสนอขาย 7.5 ล้าน
ทางม๊ะเลยไม่พอใจ?
กัญญาณัฐ : ไม่ใช่ค่ะ ที่จะซื้อในนามพี่น้อง เรามองว่าเราควรซื้อที่เก็บไว้ เราเองกับธรรมนูญไม่ได้มีปัญหาอะไร
ต่อยกันบนบ้าน?
กัญญาณัฐ : ใช่ค่ะ เขามาต่อย
ดร.ปรเมศวร์ : ตร.ค้นบ้านเจอทั้งปืน มีอีกหลายคดี
อ้อ : เขาชอบเอาปืนมาขู่
สารตั้งต้นเริ่มจากฝั่งธรรมนูญ เจ้าของที่ดิน พี่ชายม๊ะ มีการพูดคุยกับม๊ะว่าจะขายที่แปลงนี้ให้กับเสี่ยอ่ำ เพราะเสี่ยอ่ำปลูกบ้านไว้แล้ว จะขาย 7.5 ล้าน แต่ทางนี้ไปคุยกันว่ามันเป็นที่เราเองจะไปขายคนอื่นทำไม มันเป็นที่มรดก กะซื้อเก็บไว้ให้ลูกให้หลาน แต่อยู่ดีๆ ทางนี้วางมัดจำไปแล้ว วางเท่าไหร่?
อ้อ : 3.5 ล้านค่ะ จ่ายให้ธรรมนูญค่ะ มีสัญญาค่ะ รอเจ้าของทำเรื่องจัดการมรดกก็จะโอนค่ะ
ทนายแก้ว : ชื่อโฉนดเป็นชื่อภรรยาคุณธรรมนูญซึ่งเสียชีวิตแล้ว ผู้จัดการมรดกภรรยาคือคุณธรรมนูญ คุณธรรมนูญเป็นคู่สัญญากับเรา
อ้อ : ค่ะ
ทางนี้บอกว่าฮาริดไม่พอใจ ไปซื้อที่ตัดหน้าเขา เขาทำยังไงบ้าง?
อ้อ : เขาชอบยั่วยุ ขับรถมาเปิดกระจกมองหน้า ให้นิ้วกลาง แล้วชอบถุยน้ำลายใส่เสี่ยค่ะ มองหน้าแล้วถุย
เสี่ยอายุเท่าไหร่?
อ้อ : 42 ค่ะ
ฮาริดเท่าไหร่?
กัญญาณัฐ : 29 ค่ะ
เป็นไม้เบื่อไม้เมากันเลย จากนั้นเป็นยังไงต่อ?
อ้อ : เขาพยายามยั่วยุตลอด และชอบด่าเสี่ยว่า...
ด่าหน้าเสี่ยเหมือนหมี?
กัญญาณัฐ : ที่ไปด่าเสี่ยก็ต้องเข้าใจด้วยนะว่า ฮาริดมีหน้าที่ดูแลอพาร์ทเมนต์ เวลาไปอพาร์ทเมนต์ก็มาท้าต่อยอยู่ตลอด เขาก็เดินมาบอกแม่ว่าวันนี้เดินไปเอาของที่อพาร์ทเมนต์จะมาต่อยอีกแล้ว
แต่ฮาริดก็ไม่มีสิทธิ์ไปด่าเขาหน้าเหมือนหมีนะ?
กัญญาณัฐ : เราให้ตร.มาเคลียร์เจรจาแล้ว ถ้าคุณอ่ำเสียงดังเวลากลางคืน ให้ทางนี้แจ้งตร. แต่ถ้าฮาริดไปด่าก็ให้คุณอ่ำแจ้งตร. เราก็ปรามลูก เราเรียนหนังสือมา เราเป็นคนมีความรู้ เราเรียนมาไม่สมควรใช้หลักในการไปด่าเขา ต้องคุยกันดีๆ หลังจากที่ต่อยฟันหักแล้วนะ
เริ่มต่อยอันแรก ปัญหาเกิดจากอะไร?
กัญญาณัฐ : ก่อนต่อยตอนกลางคืน คุณอ่ำเสียงดัง ลูกสะใภ้บอกว่าคุณอ่ำเบาได้มั้ย พรุ่งนี้จะไปขายของ คือพฤติกรรมที่ผ่านมา เราไปร้องศูนย์ดำรงธรรมแล้ว ถ้าเล่นตะกร้อ กินเหล้าเสียงดัง หรือมีคนภายนอกเข้ามาเล่นตะกร้อก็อย่าให้ดึกมากนัก เราจะได้พักผ่อน แต่เขามีพฤติกรรมดึกตลอด ซึ่งเราจะโทรไปแจ้งความและโทรไปหาผู้ใหญ่บ้านตลอด พอเราไปร้องศูนย์ดำรงธรรม เขาก็มาคุย มีจดหมายมาให้ว่าคุณอ่ำให้การว่าเล่นตะกร้อหรือเสียงดัง เล่นแค่ทุ่มหรือสามทุ่ม แต่ความจริงคือเที่ยงคืนตีหนึ่ง มีการกินเหล้าแล้วเตะตะกร้อ ไม่ได้เตะตลอด
อ้อ : ไม่ได้ดังแรงขนาดนั้นค่ะ แต่เตะจริง มีเป็นบางวัน หลังๆ เขาก็เลี่ยงไปเตะข้างนอกค่ะ เรื่องกินเหล้าก็ไม่ได้กินเสียงดังค่ะ กินกันไม่ได้เปิดเพลง ไม่ได้เอะอะเสียงดัง ถ้าเสียงดังคุณก็เอาคลิปเสียงมา
มีมั้ยม๊ะ?
กัญญาณัฐ : มีค่ะ เอาความเป็นจริงสิคะ เราเป็นคน ตายไปกี่ล้านปีก็ต้องพูดความจริง
อ้อ : มันก็เสียงดังแบบนี้มาตั้งนานแล้วค่ะ เมื่อก่อนอ้อก็ไปนั่งร้องเพลงอยู่ข้างนอกด้วยซ้ำ เป็นเรื่องปกติ แต่พอมาสร้างบ้านตรงนี้มีปัญหาเลยค่ะ เสียงก็ใช้ปกติค่ะ
เขาผูกใจเจ็บที่เราไปได้ที่?
อ้อ : อันนี้ก็น่าจะใช่ค่ะ เพราะเราเสียงดังปกติเลยค่ะ
เสียงดังไม่มี?
อ้อ : มันไม่ได้ยินหรอกค่ะ
แอน : บ้านหนูอยู่ใกล้ๆ สนามตะกร้อเลยตอนนี้ เขาเล่นกีฬา แต่หนูไม่ได้ยินเสียงเลย หนูก็งงว่าทำไมเขาบอกว่าเสียงดัง บ้านหนูอยู่ติดสนามเลย
วันที่ต่อยฟันหัก?
กัญญาณัฐ : ครูไม่ได้อยู่บ้าน ฮาริดใส่ผ้าถุงผืนเดียว เข็นขยะไปทิ้ง ตอนไปไม่ได้สังเกตเห็นคุณอ่ำ พอขากลับเห็นคุณอ่ำก็หันไปยิ้มให้ ลูกบอกแบบนั้น คุณอ่ำวิ่งเข้ามาต่อยข้างหลังจนผ้าถุงหลุด แล้วมาซ้ำกระทืบๆ จนมีแผลเป็นที่ขาทุกวันนี้เลย ฟันก็หัก อันนี้มีใบตรวจของแพทย์ โสร่งหลุดก็กระทืบๆ ซ้ำ กระทืบทั้งแก้ผ้า เสื้อก็ไม่ใส่ ฮาริดก็วิ่งหนีจนกลับมาบ้าน เขาก็มาขู่อีกว่าถ้ามึงมาเมื่อไหร่ก็จะทำอีก
อ้อ : ตอนช่วงเช้าเขาให้ญาติเขาขับรถสีเขียว มาบีบแตรตรงข้างบ้าน มาก่อกวนตอนเช้าค่ะ เขามาบีบแตรตอนเช้า แล้วขับไปบ้านฮาริดค่ะ
อ่ำเลยไม่พอใจ?
อ้อ : ใช่ค่ะ เขามีด่า ท้าให้ออกมา ลูกก็ตกใจ ก็ยังไม่กล้าออกมากลัวเขามีอาวุธ ก็ออกมาคุยกับเจ้าของที่ ฮาริดมาทิ้งขยะพอดี พอฮาริดมาทิ้งขยะ ตอนเดินไปแรกๆ ไม่มีอะไร เดินไปเฉยๆ แต่พอขากลับเขาหันมอง แล้วชูนิ้วกลางให้ค่ะ ตาอ่ำเห็นปุ๊บก็วิ่งเลย
ถ้าเขาเปิดคลิปม๊ะหงายเลยนะ?
กัญญาณัฐ : ไม่เป็นไรค่ะ ยอมรับได้ ที่รถมา ฮาริดโทรมาหาแม่ แม่อยู่ที่อื่น ฮาริดบอกว่าเขาไม่ได้ใช้ ดาวุฒิมาเอง เป็นหลาน เป็นลูกพี่สาวคนโต เป็นลูกพี่ลูกน้องกันค่ะ
ตอนนี้เสี่ยอ่ำยังอยู่รพ. จะกลับมาเดินได้มั้ย?
อ้อ : ไม่รับปากค่ะ เพราะแตกประมาณ 7 เซนฯ ค่ะ
ฮาริดอยู่ไหน?
กัญญาณัฐ : ประกันตัวออกมาแต่ไม่ได้อยู่บ้านค่ะ ทางเราพอเกิดเหตุการณ์ ก็ส่งคุณอ่ำขึ้นรถก่อน แล้วแจ้งตร.ให้มารับลูกไป เพราะทางนี้ปิดซอยด้วย ไม่ให้ออก แต่เราโทรเรียกตร.ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แล้ว เขายิงปุ๊บเราโทรเรียกตร.ให้มา
ฮาริดมีปืนเยอะเหรอ?
กัญญาณัฐ : มีแค่กระบอกเดียวค่ะ
ลูกไปเอาปืนมาจากไหน?
กัญญาณัฐ : ก่อนหน้านี้ครอบครัวเราไม่เคยมีปืนเลย แต่พอมีปัญหากันก็ซื้อมาไว้ป้องกันตัวเองค่ะ เนื่องจากว่าทั้งหมดเป็นลูกน้องเขาหมดเลย เราจะเข้าจะออกยังไม่ได้เลย เดินไปอพาร์ทเมนต์ก็ขู่ ไม่ได้ขู่อย่างเดียว มีการดูถูกเหยียดหยามด้วย
จริงมั้ย?
อ้อ : ไม่เคยขู่เลยค่ะ
กัญญาณัฐ : มีในคลิปค่ะ แต่ไม่ได้เอามาค่ะ
ทนายแก้ว : อยากรู้ว่าพอไปซื้อที่ 2 ไร่ ห้องเช่า 29 ห้องยังเช่าอยู่มั้ย
กัญญาณัฐ : เขาขอทยอยออกค่ะ หลังจากต่อยฟันหักแล้ว ทางตร.บอกให้เขาออกไปให้หมดเถอะ ถ้าอยู่ก็จะทะเลาะกัน
จริงๆ ลูกชายต้องการยิงขู่?
กัญญาณัฐ : ใช่ค่ะ ยิงไปที่พื้นค่ะ
อ้อ : ไม่ขู่ค่ะ ยิงตรงตัวเลย แต่เสี่ยเห็นแล้วเขาหลบค่ะ เขาจ่อตรงกลางเลย
กัญญาณัฐ : ห่างกันตั้งสองเมตร
อ้อ : หมายถึงยกประมาณนี้ จะเอาพยานมั้ยคะ
ต่อยกันกี่รอบ?
กัญญาณัฐ : ครั้งแรกรอบที่มีเพลงเสียงดัง บุกไปต่อยที่บ้าน ครั้งที่สองต่อยฟันหัก ดาวุฒิหลานขับรถมาเขาหมั่นไส้ ขอทำให้สบายใจ แต่เราบอกทำแบบนี้จะเดือดร้อน เพราะฮาริดไม่รู้เรื่อง พอตอนเช้าไปบีบแตร ทางนี้ก็คุยกับดาวุฒิว่าอย่าทำนะ
ดาวุฒิอายุเท่าไหร่?
กัญญาณัฐ : 50 แล้วค่ะ เราก็ตักเตือนเพราะเราเป็นน้าด้วย เป็นครูด้วย ว่าทำแบบนี้ไม่ได้
พี่สาวอายุเท่าไหร่?
กัญญาณัฐ : จะ 80 ค่ะ เสียชีวิตไปแล้ว
ม๊ะอายุเท่าไหร่?
กัญญาณัฐ : จะ 60 แล้วค่ะ ก็ตักเตือนดาวุฒิไปแล้ว หลังจากนั้นดาวุฒิไม่มาทำอีกเลยใช่มั้ยคุณอ้อ เราไม่ให้มา
แล้วก็ต่อยกัน มีต่อยครั้งที่สามมั้ย?
กัญญาณัฐ : ก่อนเหตุการณ์วันเสาร์ วันที่ 23 ที่เกิดเรื่องเลย ครูใช้ให้ลูกไปติดป้ายที่อพาร์ทเมนต์ว่ามีห้องว่าง เพราะเขาคืนห้องมา 6 ห้อง เราก็ติดป้ายเดินกลับมา เนื่องจากรถคุณอ่ำ เคยขู่ว่าถ้าเธอขับออกไป ฉันจะให้ลูกน้องถอยรถชน ให้ลูกน้องพูดกับฮาริด อยู่มาวันนึงลูกสะใภ้ขับรถพาหลานเล็กๆ ไปเรียนหนังสือ ลูกน้องขับมาแบบไม่หลบ
เสี่ยอ่ำขู่ถ้าวันไหนฮาริดออกมาจากบ้าน จะให้ลูกน้องขับรถชนเลย เพราะรถมีประกัน ประกันจ่าย ไม่กลัวหรอก วันดีคืนดีลูกหลานเราออกไปแล้วยังไง?
กัญญาณัฐ : ลูกน้องเขาขับมาอย่างแรง ไม่หยุดเลย พุ่งมาแล้วเป็นต่างระดับ ลูกสะใภ้ก็แทบจะชน นิดเดียวจะชน ก็ตกใจกลับมาฟ้องแม่ เราก็เลยคิดว่าเราติดกล้องวงจรปิดเพื่อได้มองเห็นรถเข้าออก
ทำแบบนั้นจริงมั้ย?
แอน : ไม่ค่ะ วันนั้นที่ทะเลาะกันหลังต่อยกัน เขาอ้างว่าพี่อ่ำจะให้ลูกน้องถอยรถชน วันนั้นหนูยืนอยู่ข้างๆ พี่อ่ำเลย พี่อ่ำบอกว่าคุณมาทำนิสัยแบบนี้ ไปด่าเขามั่วซั่วแบบนี้ไม่ได้นะ ถ้าคนอื่นเขาเห็น เขาไม่เหมือนผมนะ เขาจะขับรถชนคุณตายได้ เขาพูดอย่างนี้
อ้อ : เขาว่าลูกน้องหรือคนอื่น ไม่ใช่เขาค่ะ
อ่ำพูดกับใคร?
แอน : อ่ำพูดกับฮาริด ฮาริดอยู่ในบ้าน ตะโกนด่ากันออกมา
ฮาริดตะโกนด่าว่าไง?
แอน : ไอ้หน้า... ไอ้เหี้... มึงมาต่อยกับกูเลยมา มึงจะไปทำนิสัยแบบนี้ไม่ได้นะ ถ้าเกิดมึงทำกับคนอื่น ถ้าคนไม่ได้อารมณ์เย็นแบบกู มึงโดนเขาเหยียบตายไม่รู้นะ
กัญญาณัฐ : นอกจากให้ลูกน้องทำแบบนี้แล้ว ท่านสุรเขต ตร.กับอบต.มาที่บ้านในวันพฤหัส เหมือนเราจะเจรจาดีกันได้มั้ย ถ้าเขาขับรถชนลูกเราหรือหลานเรา เขามีประกันเราก็ทำอะไรไม่ได้ ให้รู้ไว้ตรงนี้ ทางศูนย์ดำรงธรรมก็คุยว่าให้เรามาเจรจากันดีมั้ย ท่านสุรเขตกับผู้ใหญ่ในพื้นที่ก็มาบอกว่าเราเจรจากันดีมั้ย เราก็บอกว่าได้ แต่นัดมาสิ เมื่อไหร่ แต่ไม่ไหวเลย
วันที่ 23 พ.ย.?
กัญญาณัฐ : ลูกไปติดป้ายอพาร์ทเมนต์ประกาศเช่า แล้วเดินมาช่วยช่างติดตั้งกล้องวงจรปิด ติดข้างบน ติดเพื่อให้รถเข้ามาจอดในอพาร์ทเมนต์จะได้มองเห็น ระหว่างกำลังติดคุณอ่ำก็วิ่งมาบอกว่าติดแบบนี้ไม่ได้
เขาบอกถ้าม๊ะโกหกให้กดหนึ่ง?
กัญญาณัฐ : ม๊ะไม่โกหกค่ะ เพราะม๊ะเป็นครู ตายไปล้านปีก็ขอพูดความจริง ไม่มีทางพูดโกหก
ติดกล้องอยู่แล้วเป็นยังไง?
กัญญาณัฐ : คุณอ่ำก็วิ่งมา ตะโกนด่า
อ้อ : คนเชื่อมเหล็กเขาเห็นสะเก็ดไฟ กลัวร่วงใส่รถ เขาก็เลยมาห้าม รถลูกน้องจอดอยู่ใต้หลังคาเลยค่ะ เขามาห้ามบอกว่าใช้เชื่อมเหล็กแบบนี้ รถเขาจะเสียหายมั้ย
ฮาริดตอบว่าไง?
อ้อ : มึงก็ไปบอกคนขับเองดิ มีคลิปเสียงค่ะ
กัญญาณัฐ : มีเหตุผลนะคะ ครูเคยขอบัตรประชาชนลูกน้องทุกคน พักห้องไหน ลูกน้องอยู่ห้องไหน แต่เขาไม่ให้ บอกว่าเช่าในนามสูงส่งเจริญ ไม่ให้ ปนัดดาเป็นคนบอก เจ้าหน้าที่ของเขาค่ะ
แอน : สำนักงานเราก็อยู่ตรงนั้นใกล้ๆ นะคะ เดินไปบอกก็ได้
กัญญาณัฐ : เขารู้ว่าครูโทรคุยกับเขาแล้ว ครูขอเป็นไลน์ด้วย เขาไม่ให้
อ้อ : เรียกก็ได้ค่ะ รถเขาจะเสียหาย คุณเชื่อมอยู่ท้ายรถเขาเลยค่ะ
กัญญาณัฐ : ครูก็จ้องดูว่าสะเก็ดอยู่บนหลังคา ไม่ได้ร่วงมา มีคลิปที่ครูขอโทษคุณอ่ำ ถูกมั้ยคะ
ตอนแรกเริ่มจากไฟตกลงมาใส่รถ อ่ำก็ด่าโน่นนี่นั่น บอกเขาหน่อยสิ จะตายหรือไง ก็ไปถอยซะ ด่าเสร็จเหมือนฮาริดตะโกนด่าสวน อ่ำวิ่งเข้ามาจะต่อยฮาริด ปารองเท้าใส่ต่างๆ นานา ฮาริดไปหยิบปืนตอนไหน?
กัญญาณัฐ : รอบที่สามฮาริดบอกต่างคนต่างอยู่ ไม่อยากทะเลาะแล้ว เขาก็ยังวิ่งเข้ามา ทีแรกเขาไปตากผ้าบนบ้าน อ่ำก็ยังโวยๆ ม๊ะเองเกาะกับคุณอ่ำ ไม่ได้แยกจากกันเลย เรากับอ้อ คุณอ่ำ ไม่ได้โกรธเคืองกันเลย เราเข้าใจกันหมดแล้ว แต่สองคนนี้ไม่หยุด ตอนไปเอาปืนขู่ ก็ไม่รู้ ตอนปารองเท้าเข้ามาโดนเมียเขาและลูกเขา
อ้อ : ไม่น่าจะโดนนะคะ ไม่เห็นโดน
กัญญาณัฐ : โดนค่ะ เขาก็เลยโมโหว่าไม่ยอมหยุด แต่มองเห็นคนรอบๆ ว่ามีคนมากันหลายคน เขาขึ้นไปตากผ้าแล้วคุณอ่ำยังไม่หยุด ตอนที่คุณอ่ำโดนยังเข้าไปถามว่าคุณอ่ำโดนประทัดเหรอ เราตกใจ เลือดยังไม่ออก เรายังมึนว่าไปเอาปืนมาตอนไหน
แอน : กล้องตรงนี้ดูไม่ได้เหรอคะ น่าจะชัดที่สุดเลยนะคะ
ฮาริดยิงตรงไหน?
กัญญาณัฐ : ยิงลงพื้นค่ะ เขาวิ่งกระโดดเข้ามา แล้วจังหวะมาโดน
ทนายแก้ว : ตกลงคนยิงจ่อยิงแบบไหน ตั้งใจยิงลงพื้น หรือตั้งใจยิงที่ขา
กัญญาณัฐ : แม่หันไปเห็นแต่ฝุ่นขึ้นมาจากพื้นค่ะ เราก็เข้าใจว่ายิงไปที่พื้น
ยิงลงพื้น กระสุนกระดอนไปโดน?
กัญญาณัฐ : เข้าใจว่าจังหวะเขาวิ่งเข้ามาแล้วยิงไป มันมาสวนพอดี ก็เลยโดนขา
ยิงยังไง?
อ้อ : แฟนบอกว่ายิงตรงกลางตัวเลยค่ะ แล้วเสี่ยเขาเห็น เขาก็เลยเฮ้ยๆ อะไร จะกระโดดหนี แต่ไม่ทัน ก็เลยโดนขา
ถ้าจ่อยิงที่ตัว จะกระโดดยังไง?
อ้อ : เขากระโดดจะหลบค่ะ
กัญญาณัฐ : ไม่หลบ วิ่งไปอย่างเดียวเลย
ทนายแก้ว : น่าจะจังหวะอ่ำวิ่งเข้าไป แล้วคนยิง ยิงที่ขา
อ่ำเดินมาสองก้าวก็ยิง ไม่ได้วิ่งเข้าไปนะ โดนยิงก็เลยยกขา ต่อสายหา “อ่ำ” เป็นไม่เบื่อไม้เมากับเขามานานแล้วเหรอ?
อ่ำ : จริงๆ สนิทกับกับฮาริด สนิทกันมาก เตะตะกร้อด้วยกันด้วย เราไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันเลย พอเราย้ายลงมาข้างล่าง ซื้อที่โครงการจะทำขยายที่พักอาศัย เขาก็ไม่พอใจเราว่าเราจะขยับขยายหรือเปล่า เขาไม่พอใจเราอยู่เรื่อง เตะตะกร้อถามว่าเสียงดังมั้ย มันก็ต้องได้ยิน แต่ไม่ถึงกับดัง เสียงดังเราก็แก้ไขให้นะ เราย้ายไปอยู่หน้าบ้านเราให้ เขาบอกเขาลำบากใจ เขาเป็นมุสลิม มีการกินเบียร์ เขาเห็นแล้วไม่สบายใจ เด็กบางคนเลิกงานมาก็จะกินเบียร์ผ่อนคลาย เขาก็ไม่พอใจ ไปแจ้งตร.มาจับว่ามีการปล่อยปละละเลยให้เด็กกินเหล้าเบียร์ในพื้นที่มุสลิม เราก็เลยไปห้ามว่าพื้นที่ตรงนี้เราเช่าทั้งหมด เราแบ่งให้เด็กมากินในตรงที่ที่ไม่ใช่อพาร์ทเมนต์เพื่อให้เขาสบายใจมากขึ้น หลังจากนั้นไม่กี่วันเขาเอากล้องมาส่องแล้วไปแจ้งศูนย์ดำรงธรรมว่าเรามีการมั่วสุมในการกินเบียร์ยามวิกาล แต่เรากินในบริษัท มันไม่ผิดหรอก เราเป็นนิติบุคคล เราเสียภาษีถูกต้อง เราก็บอกว่าอันไหนที่ผิดก็ให้จับไปซะ
วันเกิดเรื่องเกิดอะไร?
อ่ำ : จริงๆ ผมกำลังจะไปเตะตะกร้อ ผมเป็นสปอนเซอร์ให้นักกีฬาตะกร้อ เตรียมเสื้อให้ บริจาคเงินไปส่วนนึงแล้ว กำลังเอาเสื้อไปให้เขา จังหวะผมเดินออกมาจะขึ้นรถ ผมเห็นเขาเชื่อมเหล็ก เขาพูดไม่ดีกับผม เราเดินออกไปเราบอกเขาว่าเชื่อมเหล็กให้ขยับรถออกก่อน ผมบอกว่าเวลาเชื่อมเหล็กทำไมไม่คิด สะเก็ดไฟลงรถเขา มีความคิดมั่งดิ จะตายมั้ยถ้าจะบอกเขา เขาก็บอกว่าไหน มึงจะไม่ทำกำแพง ผมก็บอกว่าอ้าว มันคนละเรื่อง เหมือนวางแผนให้ผมไปหาเขา แล้วจะได้จัดการผม สักพักเขาด่าผมไอ้หน้า..ไม่หยุดเลย
หน้าคุณเหมือนเหรอ เขาถึงด่าตลอดเวลา?
อ่ำ : ผมเป็นคนชอบทำบุญมาก ไม่ออกโซเชียลเลย ผมทำทีเป็นแสน
นี่ไง สางบาปด้วยบุญปืน?
อ่ำ : ผมทำบุญไม่ได้บอกใคร ก็ได้รับการช่วยเหลือจากดร.แก้ว ปรเมศวร์นี่แหละ ขอบคุณที่เขายื่นมือมาช่วยให้ผมอธิบาย เพราะความจริงมีแค่หนึ่งเดียว เราทะเลาะกันมานานแล้ว แต่ผมถูกกระทำ
คุณวิ่งเข้าไปหาเขา เหมือนไปหาเรื่องไปต่อยเขาเลย?
อ่ำ : เขาด่าผม เขาน่าจะตัดต่อ เขาคุยเรื่องกำแพง ซึ่งมันเกี่ยวอะไรกัน ผมแค่ขู่เขา ไม่เคยสัมผัสตัวเขาแม้แต่นิดเดียว ตอนโดนยิงไม่ได้โดนตัวแม้แต่นิดเดียว
ก่อนหน้านั้นล่ะ ที่ต่อยเขาโสร่งหลุด?
อ่ำ : อันนั้นผมถูกรบกวนตั้งแต่กลางคืนแล้ว ก่อนหน้านั้นเขาเอาตร.มาบุกบ้านผมตอน 3 ทุ่มกว่าๆ
คุณไปทำเขาทำไม?
อ่ำ : เขาเอาตร.มาบุกบ้านผมด่าผมไอ้หน้า.. มึงจะต่อยกับกูหรือเปล่า ผมไปแจ้งความ ตร.ก็ไม่รับแจ้งความเลย ตร.บางบัวทองบอกว่าถ้าเขาท้าต่อยขนาดนั้นก็ต่อยกันซะให้จบๆ เราไม่ได้แอบต่อยเขานะ เราวิ่งไปดักข้างหน้าเพื่อให้เขาสู้ เขาให้ของลับเรา
แต่ในภาพเหมือนเขาเดินอยู่ดีๆ นะ?
อ่ำ : จริงๆ เขากวักมือเรียก เราเป็นลูกผู้ชายพอ ไม่ทำร้ายใครข้างหลัง ผมจริงๆ ไม่อยากบอกว่าตัวเองเป็นนักบุญ เราทำบุญตลอดชีวิตเลย ถ้าเราทำคนไม่มีทางสู้เราจะทำบุญทำไม ม๊ะเขาหลอกตัวเองอยู่ตลอดเวลา ลูกเขาหาเรื่องผมตลอด ผมนั่งอยู่เฉยๆ ก็มายืนจ้องหน้าผม ผมนั่งกินข้าวเขาก็มายืนจ้องหน้าผม ถามว่าจ้องหน้ากันทำไมเหรอ เขาบอกอยากเคลียร์ ก็บอกว่าอยากเคลียร์แบบไหนถึงจะสบายใจ เขาบอกว่าอยากตบผม
แต่ในภาพไม่ใช่เขาตบอ่ำนะ?
อ่ำ : ก่อนหน้าเขามีเรื่องกับผม ผมให้เขาตบผมก่อน เพื่อให้เขาหยุดพฤติกรรมไปถ่มน้ำลายใส่เรา หยุดพฤติกรรมยืนจ้องหน้าเรา เราไปหาเขาที่บ้าน ถามว่าเขาไม่สบายใจอะไร เราอยากให้เขาสบายใจ เขาบอกอยากตบผม ผมบอกโอเค ฮาริดทำแล้วต้องหยุดพฤติกรรมราวีพี่นะ ตบแล้วต่างคนต่างอยู่นะ เขาก็ตบบ้องหูผม พอเราหันไปเป็นปืน เราก็ไม่ว่าอะไร เราบอกเมียเขาว่าต้องเป็นพยานให้เรานะ เราจะไม่ไปแจ้งความ เราถือว่าให้เขาตบเขาสาแก่ใจแล้ว เราก็เดินกลับมา ศักดิ์ศรีเราเป็นเจ้าของบริษัท เรายอมให้เขาตบก็แสดงว่ามีคุณธรรมนะครับ เราให้เขาตบเพื่อหยุดพฤติกรรมของเขา หลังจากนั้นเขาก็ยังมีพฤติกรรมแบบเดิม จ้องหน้า ถ่มน้ำลายใส่ บางทีลูกน้องเอาเค้กมาให้เป่าเวลาร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ทูยู คุณฮาริดจะร้องเพลงสวนมาเลยแฮปปี้เบิร์ธเดย์แด่หัวค... นั่นคือพฤติกรรมของเขา ผมทำบุญไม่บอกคนอื่นเลย แปะทองหลังพระตลอด ไม่บอกภรรยาว่าเราทำบุญ เพราะภรรยาไม่ได้ใจดีเหมือนเรา
วันเขายิงคุณ มันเกิดอะไร?
อ่ำ : ผมโมโหเขา เขาเชื่อมนานแล้ว ไฟหล่นใส่รถตลอด ฮาริดมาคุมงานด้วย ทำไมไม่บอกช่าง เขาบอกมึงขยับเองสิ แล้วเขาบอกว่าไหนมึงบอกจะไม่ทำกำแพง เขาเข้าใจว่าเราทำกำแพงเพื่อปิดกั้นการมองเห็นของเขา มันเลยทำให้เขาไม่พอใจ
“ฮาริด” อยู่ในสาย ฟังอยู่ตลอด อยู่ในสายกับอ่ำ และฮาริด เขาบอกคุณชอบให้กล้วยเขา บอกเขาหน้าเหมือนหมี จริงมั้ย?
ฮาริด : เขากระทำผมก่อนครับ ผมให้เขาด้วยความโมโห เขาต่อยผมตามในคลิปครับ ที่เขาบอกว่าผมไปแจกกล้วยเขา ผมก็ไม่ได้แจกกล้วย เขาด่า ผมก็ยกมือปัดๆ ส่ายหัว ผมเดินหนีมาแล้ว เขาก็วิ่งมาต่อยผมครับ
เหตุการณ์วันไปยิงเขา มันเกิดอะไรขึ้น?
ฮาริด : มันไม่โดนรถลูกน้องเขาเลยครับ ไม่ได้ตกลงไปในรถเลย ไปดูได้เลยว่ามีรอยมีอะไรมั้ย หลังคามันบังอยู่ครับ มันมีโอกาสโดนได้ ผมก็บอกว่าผมผิด ผมขอโทษ ก็ไล่ให้เขาไปเถอะ เขาก็ไม่ยอมออกไป เขาก็หาเรื่องผมอยู่นั่น เดินเข้ามาทำร้ายผมสองรอบ ปารองเท้าเข้ามาโดนแฟนผม ลูกผมวิ่งซนอยู่แถวนั้นถ้าโดนลูกผมจะทำยังไง
อ่ำ : มีบางส่วนเขาพูดจริง และพูดโกหกครับ เขาด่าเราไอ้หน้า...ตลอดเวลา เราก็ถามทำไมไม่หยุดด่า พูดดีๆ ไม่เป็นเหรอ พี่เชื่อมเหล็กมาทั้งชีวิต อันไหนเสี่ยงเราก็บอก ทำตั้งนานไม่เสร็จสักที เราเลยเดินไปบอกว่าทำไมไม่ใช้ความคิดในการเชื่อมเหล็ก ฮาริดขอโทษผมมั้ย ผมไม่ได้ยินหรอก มันเป็นคำกล่าวอ้างของเขา ส่วนที่ผมปารองเท้าเพราะเขาด่าผมหน้า..ไม่หยุด ผมบอกทำไมไม่ออกมาต่อยให้จบๆ เลย หลังจากนั้นเขาก็เดินมา เราก็เดินไปเหมือนกัน คิดว่าเขามาต่อยมือเปล่า แต่มือข้างขวาเขาดึงออกมายิงเราทันที โดยเราไม่สามารถหลบ โดนยิงกระเด็นไปเลย ขาพับเป็นตัวแอล กระดูกแตก ผมก็มีสติเพราะเป็นอาสา ก็ดึงขาไว้หัวเข่าไม่ให้ขยับเขยื้อน กระดูกแตกก็ทิ่มเข้าไปในเนื้อผม ลูกน้องยกแบบทุลักทุเลไปรพ.
เขาจ่อยิงคุณหรือยิงลงพื้น?
อ่ำ : จ่อยิงผมครับ เป็นแมกกาซีนสีดำ เขาขึ้นลำกล้องอยู่แล้วนะครับ ผมไม่เคยสัมผัสตัวเขาแม้แต่นิดเดียว
ฮาริด คุณจ่อยิงเขายังไง?
ฮาริด : ผมตั้งใจยิงลงพื้น แต่เขาปรี่เข้ามาจะทำร้ายผมและลูกเมียผมอยู่ข้างๆ ผมหวาดระแวง หวาดกลัว ด้วยความตกใจ พยายามยิงลงพื้น เขาเดินเข้ามาก็ยิงโดนเขา ผมตั้งใจสกัดไม่ให้เขาเข้ามา เขาเข้ามาบุกรุกบ้านผมหลายรอบแล้ว ผมแจ้งความไปคดีก็ไม่คืบหน้า เขาค่อนข้างมีอิทธิพล ผมแจ้งความไป ตร.มาก็กลับไปเฉยๆ เขาก็ยังเล่นตะกร้าตีหนึ่งตีสอง แล้วก็ข่มขู่จะฆ่าผม เอากู้ภัยมาขู่ผม ขู่จะยิงผม จะฆ่าผมตลอด บุกรุกบ้านผมตลอด ผมไม่เคยไปหาเรื่องเขาที่บ้านเลยครับ ที่เขาพูดกับลุงว่าผมเอาปืนไปตบเขายันหน้าบ้านไปหาเรื่องเขาที่หน้าบ้าน ผมไม่เคยทำเลย มีแต่เขามาคุกคามผม จนผมหวาดระแวงไปหมดว่าเขาจะทำร้ายผม ผมก็ตั้งใจยิงสกัดให้เขาออกไป
กัญญาณัฐ : ที่ฮาริดจะขอโทษพี่อ่ำ ก็ขอโทษเลยนะลูก
ฮาริด : จริงๆ ผมก็รู้สึกผิด ผมทำเกินกว่าเหตุ ผมไม่ได้ตั้งใจ แต่ด้วยความหวาดระแวงกับสิ่งที่พี่กระทำกับผมและครอบครัว ตอนนี้ผมเองก็หนีออกมาข้างนอก ไม่กล้ากลับเข้าบ้าน เพราะเขาขู่จะฆ่าผมตั้งหลายรอบแล้ว ผมก็สำนึกผิดจริงๆ ได้รับโทษของผมแล้ว ผมได้เข้าไปอยู่ในคุกแล้ว
ประกันตัวออกมาแล้ว?
ฮาริด : ครับ ผมขอโทษด้วยแล้วกัน ที่ผมใช้คำพูดคำจาไม่ดี ก็อย่างที่เห็น เราก็ทะเลาะกันมาตลอด ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง พี่เองก็ไม่เคยลดราวาศอกเลย เล่นตะกร้อ ผมขอร้องว่าอย่าเล่นดึก พี่ก็เล่นยันตีหนึ่งตีสอง บางวันก็ยันเช้า ผมก็อึดอัดใจมาตลอด โดนข่มขู่ กลั่นแกล้งมาตลอด ส่วนสิ่งที่ผมทำลงไป ผมก็สำนึกผิดแล้ว ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะยิงเขา ผมตั้งใจยิงสกัดเขาเฉยๆ แต่มันพลาดไปแล้ว ไม่รู้จะทำยังไง ก็ขอโทษด้วยนะครับ
กัญญาณัฐ : ที่ลูกกอดแม่แล้วลูกบอกว่าลูกไม่ได้ตั้งใจ เขาก็มีลูกเล็กๆ เหมือนเรา ลองบอกพี่อ่ำสิ เราจะได้เข้าใจกัน
ฮาริด : เราสนิทกันมาตลอด พี่เองก็มีลูกมีเมีย ผมก็มีลูกมีเมีย ผมไม่ได้ตั้งใจยิงเอาชีวิตพี่ ผมตั้งใจยิงพื้นซะด้วยซ้ำ ผมต้องขอโทษพี่ด้วยแล้วกัน ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ
คุณอ่ำมองยังไง?
อ่ำ : ความที่ผมเป็นพ่อคนนึง เราไม่ใช่ว่าจะให้อภัยหรือไม่ให้อภัย ผมบอกเขาก่อนว่าผมมือเปล่านะ บอกเขาตลอด ผมไม่เคยทำร้ายเขา เขาก็กล้าพูดว่าผมทำร้ายเขา ครั้งนั้นที่ผมทำร้ายเขา ผมอยากให้เขารู้ว่าเขาสู้ผมไม่ได้หรอก เนื่องจากผมมีวิธีป้องกันตัวของผม เขามาท้าต่อยผมหน้าบ้าน เขาสู้ผมไม่ได้หรอกเรื่องหมัดมวย แต่เพื่อให้รู้ว่าอย่ามาด่าผมหน้า..หน้าแต..อีก พอเกิดเรื่องเขาจะยิงผม ผมมีจิตสำนึกตลอดว่าเขาไม่เคยสู้เราได้ เราจะสู้ทำไม เรื่องคดีความก็ต้องเดินไป เพราะถ้าเป็นคนอื่นโดนตัดขาไปแล้ว น้องขึ้นลำกล้องรอไว้อยู่แล้ว แค่ผมขยับไป น้องขยับมา ไม่ใช่เราขยับหาเขาอย่างรวดเร็ว เขายิงเรากระเด็นเลย ผมเขวี้ยงรองเท้าไม่โดนใครทั้งนั้น ไม่ใช่ผมโกรธฮาริดนะ แต่ผมอยากให้ฮาริดได้รับผลกระทำที่ไม่คิด การที่คุณยิงขาผม ผมใช้ขาในการเลี้ยงลูก ผมเตะตะกร้อเพื่อให้ได้เหงื่อ คุณไม่ชอบเสียงดังเราก็ย้าย คุณไม่ชอบเห็นการกินเบียร์เพราะเป็นอิสลาม เราก็ย้ายให้เด็กไปกินเบียร์ข้างออฟฟิศ แล้วเราซื้อที่ไปแล้ว 7 ไร่ เราก็บอกม๊ะไปแล้วว่าเราจะย้ายไปอยู่ที่ใหม่ ไม่อยากให้ฮาริดลำบากใจ เรามีที่กำลังจะถม 7 ไร่ มันสงบกว่านี้ แต่ผมไม่ทันได้ย้าย ก็ถูกลงโทษก่อน ถ้าเป็นคนไม่มีเงินเขาถูกตัดขาไปนานแล้ว ผมดูแผลจริงๆ ตอน 6 โมงเช้า ไปรพ.ไหนเขาก็ไม่รับ เพราะกระดูกแตก 7 เซนฯ มีสะเก็ดหัวกระสุนในขาผมเยอะมาก ผมดวงดีทำบุญมาเยอะ ไม่มีหมอคนไหนเชื่อว่าเส้นเลือดใหญ่ไม่แตก ถ้าเส้นเลือดใหญ่แตกคือตัดขาอย่างเดียว น้องได้กระทำโดยขาดความคิด น้องถือปืนบ่อยครั้งมาก ผมแจ้งความแล้วว่าให้เอาปืนออกจากน้องซะ สักวันน้องจะยิงคนอื่น ทางโรงพักก็ให้ลงบันทึกประจำวันเฉยๆ ปืนก็ไม่ยึด แล้วมาแจ้งความจับผม ผมไม่ได้ทำอะไรฮาริดก่อน แล้วฮาริดชอบมาพูดมึงกู เขาใจร้อนเราก็พยายามเลี่ยง วันนั้นวันซวยของผม ที่ผมจะไปเตะตะกร้อ แล้วฮาริดยืนอยู่นานแล้ว
กัญญาณัฐ : ครูขอโทษคุณอ่ำด้วยนะคะ ครูขอโทษตั้งแต่โดนยิงใช่มั้ยคะ
อ่ำ : ถ้าครูจะขอโทษ ครูต้องพูดความจริงทั้งหมด ห้ามพูดใส่ร้ายผม ครูใส่ร้ายผมตลอดเวลา
กัญญาณัฐ : ครูไม่เคยใส่ร้ายนะคะ เรื่องที่เรามีปัญหากัน เราไม่ได้มีปัญหาเรื่องที่ดินนะ
อ่ำ : ถ้าครูพูดความจริงทั้งหมด ผมรับคำขอโทษ ผมพยายามเลี่ยงทุกอย่าง ถ้าครูพูดโกหกไป ผมสงสารคนที่ฟัง ผมเด็กอนาถา อยู่มูลนิธิ เป็นเด็กยากจน ผมมีโอกาสมีเงินก็แจกจ่ายคนอย่างเดียว ไม่เชื่อผมก็ไปถามลูกน้อง ผมมีจิตเมตตาขนาดไหน ผมเห็นคนโกหกคนอื่นๆ ผมก็ใจเต้นแรงมากเลย แต่เลือกฟังไปก่อน ถ้ามีโอกาสไปชี้แจง ผมจะหักทุกกระทงที่คุณพูดทั้งหมดเลย ถ้าครูยังพูดโกหกเรื่องคดีมันไม่ได้ ความจริงคือผมไม่เคยปัดปืน ฮาริดไม่เคยยิงปืนลงพื้นเลย ปืนถูกขึ้นลำกล้องไว้เรียบร้อยแล้ว ผมนอนทรมาน เหมือนคนตายทั้งเป็น
กัญญาณัฐ : ตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ครูขอโทษคุณอ่ำแล้ว ครูรู้สึกว่าการขอโทษนั้นยังไม่เพียงพอ ถ้าไปเยี่ยมก็ไม่รู้คุณอ่ำอยู่ที่ไหน เพราะไม่มีใครบอก ครูมีความเป็นห่วง ก็ขอพรให้คุณอ่ำตลอดขอให้ปลอดภัย เราไม่ได้บาดหมางกันถึงขนาดจะให้เสียชีวิตหรือเจ็บมากกว่านี้ เราไม่ได้มีใจที่จะบาดหมางกั้น ตัวครูเองไม่มี
อ่ำ : ผมบอกให้ครูและภรรยาห้ามลูกมั้ย
ฮาริด : ทำไมพี่อ่ำไม่ห้ามตัวเองบ้าง
อ่ำ : ผมมือเปล่า ผมต้องการให้ครูพูดความจริงในรายการทั้งหมด ถ้าปล่อยให้ฮาริดผิดไม่รู้ผิด ผมว่ามันอันตราย ผมไม่ได้ถูกเสมอ แต่ถ้าเรารู้ว่าเราผิด เราจะถูกแก้ไข ต้องบอกความจริงทั้งหมด ผมยินดีให้อภัย แต่ต้องบอกความจริงทั้งหมด ฮาริดผิดหรือไม่ผิดยังไม่รู้เลย เขาถูกเลี้ยงแบบลูกไก่ ผมถูกเลี้ยงอยู่ในสังคมอนาถา พอมีเงินก็บริจาคไปทั่ว ไม่เคยออกโซเชียล แต่ผมไม่พูดปดเหมือนคุณ เพราะมันบาป
กัญญาณัฐ : ตัวครูและครอบครัว จะเป็นลูกหรือภรรยาเขาก็ดี ภรรยาเขาขอพรไม่อยากให้คุณอ่ำเป็นอะไร เห็นว่าเขากอดห้ามสามีเขาแล้ว ตัวครูก็ห้ามคุณอ่ำเหมือนกันไม่ให้เข้าไป บอกลูกตลอดว่าพอแล้ว ไม่ต้องออกมา ไม่ต้องทำอะไร ซึ่งเหตุการณ์นี้ฮาริดมาคุยกับครูว่าแม่ หนูเห็นเขามีลูกเล็กๆ เช่นเดียวกับเรา เราไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเขาเลย เพียงแต่เขาหวาดกลัว ระแวง ว่าเขาเคยโดนแล้วเจ็บ วันนี้เขาขอโทษ เขาสำนึกผิดแล้ว
ทนายแก้ว : กรณีตัวฮาริดจะอ้างว่าบันดาลโทสะหรือป้องกันตัวก็ไปว่ากัน แต่กฎหมายถ้าจะอ้างว่าบันดาลโทสะต้องถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง แต่กรณีนี้ถ้าจะดูว่ามีเจตนาฆ่าหรือไม่มีเจตนาฆ่า การยกวิถีปืนต่ำกว่าใต้สะดือ ต้องตัดว่าเจตนาฆ่าออกไป เหลือเพียงทำร้ายร่างกายสาหัสหรือไม่สาหัส แต่กรณีสาหัส เข้า 297 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1 หมื่นถึง 2 แสนบาท กรณีนี้เป็นคดีอาญาแผ่นดินยอมความกันไม่ได้ นอกจากนี้ฝั่งเสี่ยอ่ำ ก็มีสิทธิ์เรียกค่ารักษาพยาบาล มากับฝั่งผู้กระทำความผิดด้วย แต่กรณีฝั่งฮาริดอ้างว่าถูกทำร้ายร่างกายจากกรณีเข็นรถขยะ ก็ไปแจ้งความ
ดร.ปรเมศวร์ : ทางเราไม่ใช่คู่กรณี เรารับเรื่องร้องเรียนมา เราให้ความเป็นธรรม เรามาดูแลแล้วไม่ต้องห่วง
ทนายแก้ว : ต่างฝ่ายต่างแจ้ง
เขายิงในรั้วบ้านมั้ย?
กัญญาณัฐ : ใช่ค่ะ
ดร.ปรเมศวร์ : มันเป็นที่โล่ง โฉนดของเขา ไม่ได้กั้นเป็นรั้วเป็นอะไร เป็นลานจอดรถ
ทนายแก้ว : ก็ไปสู้กัน ถ้าบุกรุกที่เขา ก็มีสิทธิ์ป้องกันตัวแต่ดูว่าเกินกว่าเหตุหรือเปล่า แต่กรณีนี้ตัวเสี่ยอ่ำเหมือนเข้ามาในพื้นที่ฮาริด