“ผู้ว่าสมุทรสาคร” เร่งหารือวางแผนกู้ซากเครนถล่ม! คนงานเสียชีวิต 5 บาดเจ็บ 9 ราย
เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย ร้อยตำรวจเอกสัณฐิติ ธรรมใจ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุ คานปูน (Segment) และเครน (Launching Gantry Crane) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่ใช้ก่อสร้างทางยกระดับ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน - บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย – บ้านแพ้ว(ช่วงที่ 3) ตอนที่ 1 ถล่มขณะกำลังเชื่อมคานปูนเข้าด้วยกัน ส่งผลให้คนงานที่ปฏิบัติงานเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ บนพื้นที่ กม.21+600 – กม.22+100 ถนนพระราม 2 ขาออกกรุงเทพฯ หมู่ที่2 ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยทางผู้ว่าฯ บอกว่า เราต้องดูเรื่องของการจราจร เบื้องต้นเพราะว่าเส้นทางพระราม 2 มีพี่น้องประชาชนใช้รถเยอะมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวง ได้ช่วยกันอำนวยความสะดวกโดยการปรับเส้นทาง ในขณะนี้เราได้ติดต่อบริษัทผู้ทำการก่อสร้าง เร่งมาดำเนินการเก็บกู้และคืนสภาพถนนให้สามารถใช้งานได้โดยเร็วที่สุด และในขณะนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดเราจะเร่งพยายามเก็บเคลียร์ซากที่พังลงมาเพื่อจะคืนสภาพถนนให้สามารถใช้งานโดยเร็วที่สุด
ด้านร้อยตำรวจเอกสัณฐิติ ธรรมใจ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า การดำเนินการ ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขสถานการณ์ เจ้าหน้าที่ได้ปิดการจราจรส่งผลให้ ถนนพระราม2 ขาออกเบี่ยงไปใช้ถนนเอกชัย และถนนพระราม2 ขาเข้า ใช้ช่องทางคู่ขนานได้ 2 ช่องจราจร ซึ่งขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางดังกล่าว
ต่อมาเวลา 10.30 น. นายวรณัฎฐ์ ได้เป็นผู้แทนของนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ลงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยได้มีการประชุมร่วมกับฝ่ายต่างๆ ซึ่งทางรองผู้ว่าฯ กล่าวว่า ได้รับมอบอำนาจจาก ผวจ. โดยได้เรียนเชิญส่วนราชการและผู้รับจ้างมาปรึกษาหารือกัน เพื่อประเมินสถานการณ์และรายงานข้อเท็จจริง การประเมินสถานการณ์เบื้องต้นในวันนี้ ได้เรียนเชิญทางวิศวกรรมสถาน บริษัทผู้รับจ้าง และกรมทางหลวงที่รับผิดชอบโครงการได้มาประเมินสถานการณ์ เริ่มตั้งแต่ขนาดเครน วันเวลาที่จะยก อุปกรณ์ที่เราต้องใช้ ซึ่งได้ประเมินเบื้องต้น จากนั้นจะนัดผู้เชี่ยวชาญทุกฝ่ายมาตกลงตัดสินใจกัน แต่ในเบื้องต้นได้สั่งเครนที่จะมาทำการยกมาเรียบร้อยแล้ว คาดว่าบ่ายสามโมงน่าจะมาถึงสถานที่เพื่อจะเข้าดำเนินงานในแต่ละส่วน สำหรับเรื่องของการเยียวยาทั้งเรื่องของการเสียชีวิตและบาดเจ็บนั้น ทางผู้ตรวจราชการของประกันสังคมได้ลงพื้นที่ และจะไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บเบื้องต้นโดยผู้เสียชีวิตที่อยู่ประกันสังคม เรามีกองทุนที่จะจ่ายให้ราวๆ 800,000 บาทเศษ ส่วนผู้บาดเจ็บ ใช้เงินกองทุนดูแลจนกระทั่งหายเป็นปกติ
นอกจากนี้ได้รับแจ้งจากทางผู้รับจ้างว่าทางบริษัทจะดูแลเยียวยาให้ดีที่สุด ส่วนในเรื่องของการบริหารการจราจรทางสารวัตรทางหลวงได้ประสานทาง จส.100 ในการอำนวยความสะดวกในการประชาสัมพันธ์ให้พ่อแม่พี่น้องหลบเลี่ยงเส้นทางนี้ขณะที่เรายังไม่สามารถคืนพื้นผิวจราจรให้ได้ ส่วนการที่จะรื้อเศษซากนั้นจะใช้รถเครนขนาด 220 ตัน ขนาด 360 ตัน และขนาด 400 ตัน รวม 3 คัน ซึ่งตนได้สอบถามทางผู้เชี่ยวชาญของวิศวกรรมสถานแล้วบอกน่าจะเพียงพอ โดยบ่ายสามโมงน่าจะเริ่มเข้างานคงจะใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพราะเป็นโครงสร้างที่ชำรุด มันไม่เหมือนกับการรื้อปกติ เพราะโครงสร้างที่ชำรุดต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก รายละเอียดในเรื่องวันเวลาที่จะรื้อแล้วเสร็จเมื่อไรคงให้ทางทีมงานวิศวกรรมเขาได้ประเมินสถานการณ์กันอีกครั้งส่วนสาเหตุยังไม่ทราบทางวิศวกำลังวิเคราะห์อยู่
ด้านนายวุฒินันท์ ปัทมวิสุทธิ์ ประธานสาขาวิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า สาเหตุยังไม่ทราบ แต่เบื้องต้นพบมีของที่คาอยู่ข้างบนชิ้นใหญ่คิดว่าประมาณ 100 ตัน และมีบล็อกที่แขวนคาอยู่คาดว่าเกิน 50 ตัน เวลาที่เราจะรื้อค่อนข้างจะยากนิดหนึ่ง เพราะว่ามันเกี่ยวโยงกัน คือ คานตัวนี้เป็นปั่นจั่นชนิดหนึ่งเอาไว้ยกกล่องคอนกรีต เข้าใจว่าที่มันร่วงก็คือตอนที่เราจัดเรียงไม่แน่ใจว่าตัวไฮโดรลิคปั๊มหรือสลิงไรเดอร์ ที่มันหล่นไป ซึ่งข้างบนจะรื้อมันยากนิดหนึ่งเราต้องใช้เครนใหญ่รื้อแน่นอนเนื่องจากโครงสร้างตัวนี้ที่มันพาดอยู่คาดว่าจะหนักเกิน 100ตัน แต่ว่ามันยึดโยงอยู่และบางส่วนโดยห้อยกับตัวคอนกรีตที่เราเรียกว่าSegment น่าจะใช้เครนหลายตัวเพราะชิ้นหนึ่งน่าจะเกิน200ตัน ซึ่งเรามีทีมที่อยู่ดูแลเรื่องเครนอยู่ โดยตนจะให้ทีมงานมาช่วยประเมินและขอให้ผู้เกี่ยวข้องเช่นผู้ควบคุมงาน ผู้รับเหมา มาให้ข้อมูลว่าแต่ละท่อนหนักเท่าไรกันแน่น้ำหนักที่แน่ชัด เพื่อที่เวลาเราเอาเครนมาวางจะได้รู้ว่าเครนที่เรามีอยู่มันใหญ่พอไหม ซึ่งแนวทางเบื้องต้นน่าจะทยอยรื้อจากข้างบนเพื่อที่ข้างล่างพอเรารื้อออกจะได้นำผู้เสียชีวิตออกได้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการรื้อถอนประมาณ 2 – 3 วัน
สำหรับผู้เสียชีวิตล่าสุดนั้น รวม 5 ราย คือ นายอภิวัฒน์ พะพันทาง อายุ 30 ปี สัญชาติไทย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ศพอยู่ รพ.สมุทรสาคร,นายเอยา อายุ 37 ปี สัญชาติเมียนมา เสียชีวิตที่ รพ.สมุทรสาคร,นายชิต โกโก สัญชาติเมียนมา เสียชีวิตที่เกิดเหตุ ยังนำร่างออกมาไม่ได้ และ มีผู้สูญหายจำนวน 2 ราย คาดว่าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ คือ นายเพียว โกโก สัญชาติเมียนมา กับ นายอ่อง เทียน เท สัญชาติเมียนมา ส่วนผู้บาดเจ็บคงเหลืออยู่ในโรงพยาบาลจำนวน 9 คน
.