ปปป.เรียก“ทนายธรรมราช”ให้ปากคำเพิ่มเติมคดีที่ร้องให้ตรวจสอบเมีย รอง ผอ.สำนักพุทธฯ ทุจริตงบประมาณฯ

เมื่อเวลา 11.45 น.วันที่ 29 พ.ย.67 ที่ ริมถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม.ด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายหลังเข้าพบ พงส.บก.ปปป.แล้ว นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความ  ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตนเดินทางมาพบ พงส.เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในประเด็นที่ตนเคยมายื่นร้องไว้เมื่อเดือน ก.ย.เรื่องเกี่ยวกับการทำงานของสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ ขอให้ตรวจสอบกรณีของ รอง ผอ.สำนักพุทธฯ คนที่ภรรยาของท่านเคยต้องคดีทุจริตงบประมาณฯ ในช่วงระหว่างปี 59-60 ซึ่งศาลได้พิพาษาให้ภรรยารอง ผอ.ท่านนี้ชดใช้ค่าเสียหายส่วนแพ่ง ให้กับสำนักพุทธฯ รวมเป็นเงิน 7,950,000 บาท ที่ตนมีข้อสงสัยว่าได้มีการยึดทรัพย์นำเงินมาชำระหนี้ให้กับสำนักพุทธฯ ตามคำพิพากษาแล้วหรือยัง 

ล่าสุดทราบว่ามีการออกหมายตั้งเจ้าหน้าที่บังคับคดี แต่ยังไม่มีการยึดทรัพย์ขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ดังกล่าวเลย ซึ่งยังไม่ทราบว่ามีทรัพย์สินใดบ้าง นอกจากนี้ตนขอให้ตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีทรัพย์สินใดบ้างเป็นทรัพย์สินร่วม อยู่กับคู่สมรสของจำเลยหรือไม่ ยังมีทะเบียนสมรสอยู่กันหรือไม่ ซึ่งในทางแพ่ง ถ้ายังมีทะเบียนสมรสกันอยู่และมีทรัพย์สินที่หาได้ร่วมกันก็ย่อมเป็นของจำเลยครึ่งหนึ่ง จะต้องยึด/อายัด/ขายทอดตลาดตามคำพิพากษา ซึ่งระยะเวลาผ่านมาหลายปีแล้ว ทำไมถึงยังไม่มีการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาล ไม่รู้ว่ามัวทำอะไรกันอยู่

เมื่อภรรยาเป็นลูกหนี้ของศาล แต่สามีกลับมานั่งตำแหน่ง รอง ผอ. ทำไมไม่เคลียร์ในประเด็นนี้ให้โปร่งใสตรวจสอบได้ นอกจากนี้ขอให้ตรวจสอบย้อนไปช่วงที่ภรรยา รอง ผอ.ท่านนี้ถูกตั้งกรรมการสอบนั้น ตัวสามีถูกตั้งกรรมการสอบด้วยหรือไม่ มีใครร่วมเป็นคณะกรรมการสอบบ้าง ตนเกรงว่าอาจจะมีการช่วยเหลือกัน  2 ประเด็นนี้ตนติดใจสงสัย เพราะท่าน รอง ผอ.มีโอกาสเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็น ผอ.สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติได้ ก่อนจะรับตำแหน่งจะต้องเคลียร์ทั้งสองประเด็นนี้ให้ได้ก่อน