สถานการณ์น้ำภาคใต้หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง กรมชลฯ เร่งสูบระบายน้ำ ลดผลกระทบประชาชน

วันที่ 29 พ.ย.67 ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำภาคใต้ ปัจจุบัน (29 พ.ย. 67) ความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง ทำให้ยังคงมีฝนตกหนัก บางพื้นที่พบว่ามีฝนตกสะสม 24 ชม. เกิน 200 มิลลิเมตร ส่งผลให้มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสตูล ปัตตานี พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส และนครศรีธรรมราช  

สถานการณ์น้ำล้นตลิ่งที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ข้อมูลจากสถานีวัดน้ำท่าของกรมชลประทาน ล่าสุด (29 พ.ย. 67 เวลา 06.00 น.)

🚨ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนบน คลองท่าดี จ.นครศรีธรรมราช ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งประมาณ 0.33 เมตร

🚨ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา คลองวาด คลองอู่ตะเภา คลองต่ำ และคลองหวะ จ.สงขลา

🚨ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตก คลองดุสน จ.สตูล 

🚨ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่าง  แม่น้ำปัตตานี จ.ปัตตานี แม่น้ำสายบุรี จ.นราธิวาส แม่น้ำโก-ลก จ.นราธิวาส และ คลองตันหยงมัส จ.นราธิวาส

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้กำชับให้ทุกโครงการชลประทานในพื้นที่ภาคใต้ ติดตามสภาพอากาศประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และติดตามสถานการณ์น้ำและบูรณาการร่วมกับจังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ให้สามารถรับมือสถานการณ์น้ำได้ทันท่วงที พร้อมกับเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ อาทิ รถแบคโฮ/รถขุด รถเทรลเลอร์ เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เครื่องผลักดันน้ำประจำไว้ในพื้นที่เสี่ยง ให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้ทันที รวมไปถึงการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ และมอบหมายเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ตามนโยบายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์