วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ว่า เข้าขั้นวิกฤติ ตั้งแต่ช่วง 3 ทุ่มของเมื่อคืนที่ผ่านมา มวลน้ำจากตอนบนจังหวัดยะลาได้ไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานีต่อเนื่อง ประกอบกันมีส่วนน้ำทะเลก็หนุนสูง ส่งผลให้ระดับน้ำปัตตานีสูงจนล้นตลิ่งเข้าท่วม อย่างหนักในพื้นที่ติดกับริมแม่น้ำ ร่วมถึงทะลักเข้าท่วมในเทศบาลเมืองปัตตานีเป็นวงกว้าง ถนนจมอยู่ใต้น้ำ สูง 40-70 ซม บางจนถนนเป็นอัมพาต รถไม่สามารถจันจรได้ ถือว่าหนักสูดในรอบ 34 ปี ขณะเดียวกันบ้านเรือนของประชาชน และ ร้านค้าๆต่างๆน้ำทะลักเข้าไปภายในได้รับความเสียหาย ทำให้ประชาชนเทศบาลเมืองปัตตานี ณ ขณะนี้ได้รับความเดือนร้อนเป็นวงกว้าง

 

ส่วนเส้นทางที่รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ คือ ถนนกะลาพอ ถ.หลังวัง ถ.หลังวัง ถ.ยะรัง(บางจุด) มีน้ำท่วมสูง 50-70 ซม ส่วนพื้นที่อื่นถนนจมอยู่ใต้น้ำเช่นเดียวกัน แต่รถเล็กไม่สามารถสันจรได้ ซึ่งขณะนี้บางจุดกลายเป็นเกาะ โดยมีรถของประชาชนเป็นจำนวนมาต่างมรอน้ำลด เพื่อจะเข้าตัวเทศบาลเมืองปัตตานี   เช่นเดียวกับประชาชนที่อยู่ติดถนน จากที่นำกระสอบทรายมาว่งชั้นเดียว ได้มีการเพิ่มกระสอบทรายเป็นชั้นที่2 และชั้น ที่3 กั้นไม่ให้น้ำเข้าภายในบ้าน       

 

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ร้านค้าต่างๆ มีประชาชนเดินทางมาจับจ่ายข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อตุนเก็บไว้ ทำให้สินค้าต่างๆเริ่มที่จะขาดตลาด เพราะการขนส่งเข้า 3 จังหวัดถนนถูกตัดขาด เนื่องจากเส้นทางสายปัตตานีหาดใหญ่ถูกน้ำท่วมสูงรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ 

 

อย่างไรก็ตามทางจังหวัดปัตตานีได้ประกาศเสียงตามสายให้พี่น้องประชาชนที่อาศัยติดริมแม่น้ำเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชนิดตลอดเมื่อคืนที่ผ่านมา หากบ้านใดอยู่ในเกณฑ์ท่วมสูงมิดหัวให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อทำการอพยพทันที 

 

สำหรับสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน จังหวัดปัตตานีมีพื้นที่ประสบสถานการณ์อุทกภัยทั้ง 12 อำเภอ 111 ตำบล 597 หมู่บ้าน 37294 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนแล้ว 138858 คน และพบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย โดยรายล่าสุด คือ ดช.มูฮัมหมัดซอฟัต ดือราแม  อายุ 1 ปี เสียชีวิตขณะอยู่ภายในบ้านแล้วเกิดพลัดตกน้ำหายไป จนชาวบ้านค้นหาพบศพลอยติดต้นอ้อย เหตุเกิดบ้านปรีดอ ต.บาราเฮาะ อ.เมืองปัตตานี เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 พย.ที่ผ่านมา