วันที่ 29 พ.ย.67 เวลา 08.30น.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจดูจุดที่มีการร้องเรียน โดยได้พบกับ นายวันนี แข่งขัน ผู้ใหญ่บ้านท่าเรือ หมู่ที่ 8 ตำบลซาง อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ พร้อมกับคณะกรรมการหมู่บ้าน 4-5 คน ซึ่งได้พาเดินไปดูแนวตลิ่งป้องกันเขื่อนพังลงไปยังแม่น้ำสงคราม และได้สร้างมาได้ประมาณ 3 ปี โดยได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า มันพังทรุดตัวลงเมื่อคืนวันที่ 28 ตุลาคมเวลาประมาณ 5 ทุ่มถึง 6 ทุ่ม เนื่องจากสถานการณ์ก่อนหน้านี้บริเวณจุดนี้น้ำได้เคยท่วมสูงประมาณ 2 เมตรกว่า หรือท่วมสูงจนยื่นมือก็ยังไม่พ้น พื้นดินที่เคยอุ้มน้ำเอาไว้จำนวนมาก และเวลาน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว ก็เลยทำให้พื้นดินทรุดตัวพังลงมาด้วย จึงเป็นเหตุให้พนังกั้นดินพังสไลด์ตามลงมาด้วย

 

ทั้งนี้จึงอยากขอร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งซ่อมแซมให้ด่วน เพราะว่าถ้าหากปล่อยไว้ถึงปีหน้าก็จะทำให้น้ำท่วมแล้วก็ทรุดตัวลงมาอีกอย่างแน่นอน  ส่วนความยาวของพนังกั้นน้ำในช่วงนี้ประมาณ 800 เมตร  ในจุดที่ทรุดตัวพังลงมาประมาณ 30 เมตร เป็นช่วงที่พังหนักที่สุดในความยาวเขื่อนก็จะมีแตกร้าวเป็นช่วงๆไป  จนเลยเข้าไปถึงกลางหมู่บ้านหรือหน้าบ้านอดีตผู้ใหญ่ นายวิเชียร หลวงเดช ก็หนักหนาอยู่ ถ้าหากไม่รีบแก้ไข หรือเลยไปถึงหน้าฝนปีหน้าก็มีสิทธิ์จะทรุดตัวลงมาอีกเช่นกัน เพราะว่าตอนนี้ก็ยังมีรอยแตกแยกทรุดตัวอยู่  เนื่องจากมีตาน้ำหรือบ่อน้ำซึมไหลผ่านด้านล่างพนังกั้นน้ำเป็นช่วงๆ ถ้าไม่ทำให้ดีก็จะเกิดทรุดตัวอีกเช่นเคย

 

 จากนั้นก็ได้ชี้ให้ดูจุดบกพร่องให้ผู้สื่อข่าวดูคือตรงที่คานขอบฟุตบาท หรือที่คานปูนติดตั้งแนวแผงเหล็กกั้นกันตกก็คือใช้เหล็กเส้นน่าจะเล็กไปเพียงเหล็ก 2 เท่านั้น ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ จุดที่พนังทรุดตัวจะต้องตอกเสาเข็มพร้อมกับหินเรียงทั้งตีนด้วย  และจุดที่พังดังกล่าวก็เป็นตาน้ำ  หรือเป็นจุดที่น้ำซึมใต้ดินไหลผ่าน  แต่ทางผู้รับเหมาไม่ได้ทำรางหรือวางท่อน้ำซึมให้ไหลผ่านได้สะดวก  จึงเกิดการไหลเซาะสะสมจนทรุดพังดังกล่าว

 

ต่อมาได้พาผู้สื่อข่าวเดินดูจุดรอยแตกแยกของพนังกั้นดินพังที่อยู่ใกล้หมู่บ้าน ห่างบ้านชาวบ้านพียง 50 เมตร โดยเฉพาะบ้านของ นายวิเชียร หลวงเดช อดีตผู้ใหญ่บ้านคนเดิมที่เกษียณไปแล้ว  โดยมีรอยแยกเป็นช่วงๆ  กว้างประมาณ 10 เซนติเมตร ซึ่งหากปีต่อไปน้ำท่วมอีกและท่วมนานอย่างปีนี้ก็มีโอกาสพังทรุดตัวเช่นกัน

 

ด้าน นายพิสิษฐ์  ชิณะวิพัฒน์ โยธาธิการแลผังเมือง จังหวัดบึงกาฬไปตรวจงานที่ต่างอำเภอ จึงให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบแล้ว พร้อมกับของบประมาณจากรมฯมาซ่อมแล้ว อยู่ระหว่างรออนุมัติงบออกมาซ่อมแซม  เหตุที่เขื่อนพังเป็นเพราะมีตาน้ำไหลซึมอยู่ใต้ดิน  ขณะที่ออกแบบไม่มีตาน้ำไหลซึม จึงไม่ได้ทำแบบเอาไว้ให้ผู้รับเหมาทำรางน้ำต่อท่อเอาไว้  ให้น้ำไหลโผล่ออกไปทางหน้าเขื่อนเลย เช่นกันกับเสาเข็มจะมีหรือตอกเสาในโซนหรือพื้นที่ที่ในเขตบ้านชาวบ้าน  ส่วนนอกเขตก็จะไม่มีเข็มตอกเช่นจุดที่ทรุดพังครั้งนี้