วันที่ 29 พ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ระบุว่า...

เกาะกูด :อย่าหลงประเด็น

เกาะกูดเป็นของไทยแน่นอนตั้งแต่อดีต

ปัจจุบันและอนาคต

ไม่มีทางที่ใครจะแอบอ้างเอาไปได้

ใครแอบอ้างสิทธิ รบเป็นรบ

ขอเล่าประวัติศาสตร์การล่าอาณานิคม

ตะวันตกสำรวจพบเกาะหลีเป๊ะที่ใกล้ลังกาวี

เตรียมจะเอาไปผนวกรวมกับมลายู

แต่คนบนเกาะแจ้งว่าเป็นคนไทยมาจากพังงา

โดยผู้ว่าพังงานสมัยนั้น จัดหาที่อยู่ให้

ทำให้หลีเป๊ะยังเป็นของไทย

อึกตัวอย่างหนึ่ง ตะวันตกจะผนวกตากใบ

แต่วัดชลธาราสิงเห ตากใบชักธงชาติไทย

ทำให้รู้ว่าดินแดนส่วนนี้เป็นของไทย

เกาะโลซินที่เป็นเกาะเล็กแต่มีประภาคาร

และชักธงไทย ทำให้แนวอาณาเขตทางทะเล

เริ่มจากจุดนี้

ต้องให้ความรู้ให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน

ไทยและอีกหลายประเทศยึดหลักกฎหมาย

ทางทะเลตามสนธิสัญญาเจนีวา

เปรียบไทยชกตามกติกามวยสากล

แต่คู่ต่อสู้ใช้มวยวัด เตะศอกเข่า

มันใช้ไม่ได้ ต้องมวยวัดด้วยกัน

มันถึงจะชกกันได้ กติกาเดียวกัน

อย่าเป็นผู้ดี. กับเด็กเกเร เราเสียเปรียบ

เรื่องเกาะกูดมันสะกิดใจคนไทย

แม้ไทยจะเป็นเจ้าของเกาะกูด

ทั้งในทางนิตินัยและพฤตินัย

บริหารปกครองเกาะกูดมาแต่อดีต

แต่กลัวไอ้โม่งแอบเอาสมบัติชาติ

ปะเคนให้คนอื่นเพื่อผลประโยชน์

ประการสำคัญ. ไม่ใช่เกาะกูดที่เป็นปัญหา

แต่เป็นจุดตั้งต้นเพื่อกำหนดทะเลอาณาเขต

เขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลและไหล่ทวีป

สมบัติใต้ทะเลสำหรับลูกหลานเหลนในอนาคต

มีความกังวลใจลึกๆว่า สุดท้ายเกาะกูดจะไป

ศาลโลก

ศาลโลกไม่ใช่ศาลยุติธรรมแต่เป็นศาลการเมือง

ทำตามแรงกดดันจากชาติใหญ่. ตุลาการศาล

โลกพร้อมทำตามคำสั่ง

อย่าลืมนะ เขามีเจ้าอาณานิคมหนุนหลัง