ชาวขอนแก่น กว่า 5 หมื่นคน ร่วมรำบวงสรวง 10 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฉลอง 227 ปี เมืองขอนแก่น ก่อนจัดงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น และงานขอนแก่นซอฟต์พาวเวอร์ ประจำปี 2567
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 28 พ.ย.67 ที่บริเวณศาลหลักเมืองขอนแก่น นายพันธ์เทพ เสาโกศล รอง ผวจ.ขอนแก่น นำหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ร่วมพิธีบวงสรวงสักการะ 10 สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองขอนแก่น เพื่อความเป็นสิริมงคล ฉลองขอนแก่นครบ 227 ปี เนื่องในงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว งานกาชาดจังหวัดขอนแก่น และงานขอนแก่นซอฟต์พาวเวอร์ ประจำปี 2567 โดยมีนายรำ นางรำ รวมกว่า 50,000 คน และมีลูกหลานชาวขอนแก่น "แพรวา ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ และ พลัสเตอร์ พรพิพัฒน์ พัฒนเศรษฐานนท์" ได้ร่วมรำในครั้งนี้ด้วย โดยทางจังหวัดได้กำหนดการรำภายในบริเวณศาลหลักเมืองขอนแก่น และถนนโดยรอบศาลหลักเมืองขอนแก่น
ทั้งนี้ ในการรำ การแต่งกายของผู้รำสวมใส่เสื้อเหลืองดอกคูน โดยผู้รำหญิง นุ่งผ้าซิ่นมัดหมี่สีเข้ม หรือ ผ้าซิ่นลายแคนแก่นคูน พาดสไบด้วยผ้าขาวม้าหรือผ้าสไบลายแคนแก่นคูน เก็บผมให้เรียบร้อยพร้อมติดดอกคูนด้านซ้าย ขณะที่ผู้รำชาย สวมกางเกงสีดำ คาดเอวด้วยผ้าขาวม้า หรือผ้าลายแคนแก่นคูน หรือสามารถสวมใส่ชุดผ้าไทยประจำถิ่น ชุดประจำหมู่คณะ ชุดนักเรียน นักศึกษา เพื่อให้เกิดความสวยงามและความหลากหลาย
โดยก่อนจะมีการรำนั้น นายพันธ์เทพ เสาโกศล รอง ผวจ.ขอนแก่น ได้ประกอบพิธีเปิดกรวยดอกไม้ธูปเทียนแพ ถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ต่อจากนั้นเป็นพิธีสักการะ 10 สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองขอนแก่น ประกอบด้วย พระพุทธอภัยมงคลสมังคี ,พระพุทธพระลับ ,พระธาตุขามแก่น ,เจ้าพ่อมอดินแดง ,ศาลหลักเมืองขอนแก่น ,พระนครศรีบริรักษ์ ,ศาลเจ้าพ่อมเหศักดิ์ ,พระพุทธมหาจักรแก่นนครจากวัดหนองแวง ,พระอารามหลวง ,หลวงพ่อใหญ่จากวัดกลาง ,พระพุทธรังสิโยภาสสุขพิพัฒน์จากวัดป่าแสงอรุณ
นายพันธ์เทพ เสาโกศล รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ในวันที่ 29 พ.ย. จะมีพิธีเปิดงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น และงานขอนแก่นซอฟต์พาวเวอร์ ประจำปี 2567 เพื่อสืบสาน อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของจังหวัดขอนแก่นและภาคอีสาน ซึ่งปีนี้ปรับรูปแบบการจัดงานเทศกาลประจำปี โดยชูวัฒนธรรมอีสาน มีการสร้างเฮือนอีสานโบราณ ที่ถ่ายทอดศิลปะวัฒนธรรมของคนอีสาน ให้นักท่องเที่ยวได้มาชม มาสัมผัสและถ่ายทอดรูปแบบศิลปวัฒนธรรมของคนอีสานผ่านอาหาร และเลือกซื้อสินค้าขึ้นชื่อของดีประจำแต่ละอำเภอ อีกด้วย
