วันที่ 28 พ.ย.67 พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.วิชิต และ พ.ต.อ.เอกลักษณ์ บุญแสงเจริญ ผกก.สส.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ตรายงานคดีอาชญากรรมอุกฉกรรจ์ในพื้นที่ สภ.วิชิตต่อ พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต จากกรณีที่เมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 พ.ย.67 ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้เจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือในพื้นที่บ้านอ่าวมะขาม ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เบื้องต้นคนร้ายเป็นชาย แต่งกายใส่เสื้อฮู้ดแขนยาวสีเทา นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน ใส่รองเท้าแตะแบบคีบสีแดง สวมแมสสีดำ ใส่หมวกสีแดงขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีขาว-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาจอดหน้าร้าน จากนั้นได้เดินเข้ามาภายในร้านขายโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่ง หมู่ 7 ถ.ศักดิ์เดชน์ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมกับชักอาวุธปืนชี้บังคับพนักงานภายในร้านแล้วให้เปิดตู้เซฟที่อยู่ภายในร้าน จากนั้นได้กวาดเงินสดไปจำนวน 26,050 บาทแล้วขี่รถ จยย.หลบหนีไปมุ่งหน้าไปยังสามแยกพัฒนาท้องถิ่น ถ.ศักดิเดชน์ ต.วิชิตแล้วหายตัวไป
ต่อมาเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 27 พ.ย.67 พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.วิชิต พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกลักษณ์ บุญแสงเจริญ ผกก.สส.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ตนำกำลังชุดสืบสวนเข้าจับกุมนายรัญชน์ธฤต หรือยีส อายุ 29 ปี โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าร้านชาบูในพื้นที่ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ควบคุมตัวไปตรวจค้นบ้านเช่าภายในซอยสันติสุข 1 หมู่ 7 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นห้องพักของนายรัญชน์ธฤต พบของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิด เช่น อาวุธปืนรีวอลเว่อร์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง รถ จยย.ที่ใช้ในการก่อเหตุ เป็นต้น ตรวจยึดส่ง พฐ.ภูเก็ตตรวจสอบ
สอบสวนทราบว่า นายรัญชน์ธฤต เป็นเชฟอยู่ที่ร้านชาบูในพื้นที่ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ส่วนกรณีสาเหตุที่ก่อเหตุนายรัญชน์ธฤต ให้การรับสารภาพว่ามีปัญหาภาระหนี้สินส่วนตัว จนไม่มีเงินใช้จ่าย จึงตัดสินใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ส่วนเงินสดที่ได้จากการกระทำความผิดนำไปใช้หนี้หมดแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านขายโทรศัพท์มือถือ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.วิชิตดำเนินคดีในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและยานพาหนะ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร