เมื่อวันที่ 28 พ.ย.67 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่าน X ระบุว่า คณะปัญญาชนผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย มักหยิบยกเหตุผลความจำเป็นว่า เราต้องยอม เพื่อเข้าไปมีอำนาจ และทำแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป มิใช่ขายฝัน จนสุดท้าย ไม่ได้ทำอะไรเลย
ชุดคำอธิบายนี้ จะฟังขึ้น ก็ต่อเมื่อ รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ได้ “ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป” อยู่บ้าง
แต่จนถึงวันนี้...
เรื่องที่ง่ายที่สุด เบาที่สุด และเป็นเรื่องที่พวกตนเองเสนอด้วย อย่าง “รายงานการศึกษาการนิรโทษกรรมคดีการแสดงออกทางการเมือง” ส.ส.พรรคเพื่อไทยยัง “กระโดดหนี” เกือบยกพรรค
เรื่องที่คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เสนอให้แก้ พ.ร.ป. ปปช. และ พ.ร.ป.คดีอาญาของนักการเมือง ให้ประชาชนฟ้องตรง พรรคเพื่อไทยเสนอแล้ว แต่ก็ไปถอนออกมาเอง
เรื่องการแก้ไขกฎหมายกระทรวงกลาโหม เพื่อให้รัฐมนตรีมีอำนาจเต็มในการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บัญชาการเหล่าทัพ และบริหารราชการกระทรวงกลาโหมได้เต็มที่โดยไม่ต้องผ่านเซนเซอร์จากสภากลาโหมก่อน การแก้ไขเรื่องนี้ คือ เริ่มต้นปฏิรูปกองทัพ ไม่ให้กองทัพขี่คอรัฐบาลพลเรือนได้ แต่จนวันนี้ ก็ไม่ทำ ในขณะที่พรรคก้าวไกล/ประชาชน เสนอร่าง กม นี้เข้าไปแล้ว
เรื่องที่ใช้อำนาจบริหารทำได้เลย ไม่ต้องตรากฎหมาย ไม่ต้องนิรโทษ อย่างการใช้ระเบียบกรมราชทัณฑ์ นำนักโทษคดีการแสดงออกทางการเมือง มาคุมขังในสถานที่อื่นนอกเรือนจำ ก็ยังไม่กล้าทำ
ส่วนเรื่องทำรัฐธรรมนูญใหม่ ก็คงไม่ทัน 2570 แน่
เราได้ยินชุดเหตุผลความจำเป็นในการ “ยอมไปก่อน” นี้ มาตั้งแต่ รัฐบาลพลังประชาชน 2550 รัฐบาลเพื่อไทย 2554 จนรัฐบาลเพื่อไทย 2566/2567
สุดท้าย...
นี่คือ
ยอม เพื่อมีอำนาจ และนำอำนาจไปแก้ไขปรับโครงสร้างอำนาจ
หรือ
ยอม เพื่อให้พวกพ้องได้แบ่งปันอำนาจ ได้มีตำแหน่งทางการเมือง ได้แก้ไขปัญหาส่วนตนของพรรคพวกตนเอง
กันแน่?
หมดวาระรัฐบาลนี้เมื่อไร คงได้พิสูจน์คำตอบกัน
ขอบคุณ X-@Piyabutr_FWP
#ปิยบุตร #ปิยบุตรแสงกนกกุล