วันที่ 28 พ.ย.2567 รัฐสภา นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในจ.พัทลุงและหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ที่เผชิญกับฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยได้ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอหารือปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เพื่อขอให้ประสานรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งเข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบภัย

โดยนายร่มธรรม กล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่จ.พัทลุง และหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ เผชิญกับฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนเป็นวงกว้าง อีกทั้งประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรง ระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศมาเลเซียจะเคลื่อนผ่านประเทศมาเลเซียลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่บริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ในช่วงวันที่ 25 - 30 พ.ย. 2567 และคาดว่าจะเกิดผลกระทบต่อเนื่องหลังจากนี้

นายร่มธรรม กล่าวว่า จึงขอให้รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งเข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ทั้งการอพยพขนย้ายสิ่งของ อนุมัติเงินอุดหนุน เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมอบถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็นเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอื่น ๆ โดยการแก้ปัญหาในระยะเร่งด่วนนี้ จะต้องจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากและดินถล่มตลอด 24  ชั่วโมง จัดชุดเคลื่อนที่เร็วสำหรับการให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน จัดเตรียมอุปกรณ์ เครื่องจักร เครื่องมือ อีกทั้งจัดเตรียมการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ในพื้นที่ที่ถูกตัดขาดเพื่อบูรณาการความช่วยเหลือให้ทันท่วงที โดยหากพื้นที่ใดได้รับผลกระทบมากก็ขอให้ทางจังหวัดประกาศภัยพิบัติอย่างเร่งด่วน

นายร่มธรรม กล่าวอีกว่า ในระยะกลาง ขอให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องรวบรวมความเสียหายเสนอไปยัง ครม.เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบให้ใกล้เคียงกับความเสียหายที่ได้รับ ไปจนถึงการสำรวจความเสียหายด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและระบบสาธารณูปโภค อาคารสถานที่ ทั้งโรงพยาบาล อาคารเรียน ตลอดจนสิ่งปลูกสร้างของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชุมชน

นายร่มธรรม กล่าวอีกว่า สำหรับในระยะยาว ขอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกแบบวางแผนการจัดการน้ำในภาคใต้ทั้งระบบ โดยต้องจัดสรรงบประมาณให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างระบบแจ้งเตือนภัยในระดับพื้นที่ให้ทั่วถึงและทันท่วงที จัดการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำอย่างเป็นระบบ ทั้งในห้วย หนอง คูคลอง และท่อระบายน้ำ รวมถึงสร้างพื้นที่กักเก็บน้ำเพิ่มขึ้นให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ภาคใต้เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก และปัญหาน้ำแล้งสลับกันทุก ๆ ปี

“ทั้งนี้ ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวพัทลุงและพี่น้องชาวใต้ทุกท่านที่ได้รับผลกระทบ ขอให้พี่น้องทุกคนในพื้นที่ภาคใต้ได้ติดตามสถานการณ์สภาพอากาศและสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด ระมัดระวังการใช้ชีวิตและการสัญจรไปมาในสถานการณ์น้ำท่วม และขอเป็นกำลังใจให้กับหน่วยงานราชการ เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครทุกท่านในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มความสามารถ”นายร่มธรรมกล่าว