เมื่อวันที่ 28 พ.ย.67 สำนักข่าวต่างประเทศ  รายงานว่า นางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะทำการตอบโต้กลับ หากสหรัฐติดตั้งขีปนาวุธในญี่ปุ่น ซึ่งจะกระทบต่อความมั่นคงของรัสเซีย

นอกจากนี้ นางซาคาโรวา กล่าวหาว่าญี่ปุ่นได้เพิ่มความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน เพื่อสร้างความชอบธรรมในการขยายความร่วมมือทางการทหารกับสหรัฐ

นางซาคาโรวา ยังได้แนะนำให้ญี่ปุ่นอ่านหลักการใหม่ของรัสเซียในการใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อให้รับรู้ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการติดตั้งขีปนาวุธของสหรัฐ

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐเตรียมจัดทำแผนร่วมมือด้านการทหารเพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับไต้หวัน โดยแผนการดังกล่าวรวมถึงการติดตั้งขีปนาวุธของสหรัฐในญี่ปุ่น

รายงานระบุว่า สหรัฐจะทำการติดตั้งขีปนาวุธที่จังหวัดโอกินาวาและคาโกชิมะของญี่ปุ่น รวมทั้งในประเทศฟิลิปปินส์

ด้านนายเซอร์เก รยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียกำลังพิจารณาติดตั้งขีปนาวุธพิสัยใกล้และพิสัยกลางในเอเชีย หากพบว่าสหรัฐทำการติดตั้งขีปนาวุธในภูมิภาคดังกล่าวเช่นกัน

"การปรากฏของระบบขีปนาวุธสหรัฐในภูมิภาคใด ๆ ในโลก จะเป็นตัวตัดสินการดำเนินขั้นตอนต่อไปของเรา ซึ่งรวมถึงการจัดโครงสร้างและการตอบโต้ทางการทหาร" นายรยาบคอฟกล่าว หลังผู้สื่อข่าวถามว่า รัสเซียกำลังพิจารณาติดตั้งขีปนาวุธพิสัยใกล้และพิสัยกลางในเอเชียหรือไม่

นอกจากนี้ นายรยาบคอฟกล่าวว่า ฐานทัพของสหรัฐในยุโรป ซึ่งรวมถึงฐานทัพที่มีการติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี จะตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของรัสเซียในกรณีที่มีการเผชิญหน้ากันทางทหาร