รวบเจ้าพ่อเช็คเด้ง อดีตนักธุรกิจขายปุ๋ยเจ้าตัวลั่นเจ็บมาเยอะ

วันที่ 27 พ.ย.67 ที่ บช.สอท. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รรท.ผบช.สอท. เปิดเผยว่าสืบเนื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลประจำศาลแขวงบางบอน ว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีฉ้อโกงของศาลแขวงบางบอน คือ นายกิตติพันธ์ อายุ 46 ปี ชาว จ.กรุงเทพมหานคร ได้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ บช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 และ พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 ให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อจับกุมตัวผู้ต้องหา ตามที่ได้รับการประสานความร่วมมือมา

ทั้งนี้จากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหามีการเดินทางไปในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่อาศัยที่ใดเป็นหลักแหล่ง กระทั่งตรวจพบโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบการของผู้ต้องหา เมื่อไปตรวจสอบ ปรากฎก็ไม่พบตัว แต่ต่อมาทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาในพื้นที่ จ.กรุงเทพมหานคร จึงได้ติดตามจนพบว่า ผู้ต้องหาขับรถกระบะสีบรอนซ์เงิน และได้มีการขับสะกดรอยติดตาม แต่คนร้ายอาศัยจังหวะรถติด ทำให้คลาดกันกับเจ้าหน้าที่

ต่อมาวันที่ 25 พ.ย.67 เจ้าหน้าที่ได้สะกดรอยรถยนต์คนร้ายได้อีกครั้ง และสามารถจับตัวนายกิตติพันธ์ได้ โดยจับกุมได้ที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งบริเวณ ถ.แจ้งวัฒนะ จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่า ปกติตนเป็นนักธุรกิจขายปุ๋ยการเกษตร ซึ่งโลดแล่นในวงการปุ๋ยนับ 10 ปี ตอนหลังช่วง ปี 62-63 เกิดวิกฤติโควิด 19 ทำให้ผลประกอบการแย่ ส่วนผสมสูตรเคมีที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศราคาดีดขึ้นเท่าตัว ทำให้ขาดทุน เพราะการทำปุ๋ยแต่ละครั้ง ตนจะรับเงินจากลูกค้าไว้ และนำไปสั่งส่วนผสม แต่ตอนหลังเงินที่ได้รับมาจากลูกค้าไม่พอเป็นกำไร และยังต้องใช้งบประมาณส่วนตัวจ่ายไปก่อน กลุ่มลูกค้าที่เข้าใจ พอคุยกันได้ ก็ทยอยใช้หนี้ไป ส่วนที่ไม่เข้าใจก็เร่งอยากได้ค่าเสียหายคืน เลยแก้ปัญหาโดยการออกเช็คให้ โดยคิดว่าหลังจากที่ลูกค้าได้รับเช็คไปแล้ว ตนสามารถยืดเวลาเพื่อหาเงินจากเจ้าอื่นมาโปะให้ได้ทัน แต่ปรากฏว่าเช็คเด้งทั้งหมด เลยเกิดเรื่องคดีความมากมาย นายกิตติพันธ์ลั่นฯ ผมโดนคดีเช็คและโดนจับเรื่องนี้มานับไม่ถ้วนแล้ว ทุกวันนี้ก็ตระเวนขึ้นโรงขึ้นศาลไม่เว้น มีคดีนับ 10 จบได้บ้างไม่ได้บ้าง