เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 พ.ย. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการเคลื่อนไหวของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ เตรียมประกาศลงถนน จะนำมาสู่เหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ อย่างเช่นในอดีตหรือไม่ว่า จากประสบการณ์ส่วนตัว เราผ่านเรื่องนี้มาช้านานจนนำมาสู่การปฏิวัติรัฐประหาร ประสบการณ์ตรงนี้คือบทเรียนสำคัญ
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยหยุดอยู่กับที่และถอยหลัง เพราะการเมืองไม่มีเสถียรภาพ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ทำให้ประเทศฉุดรั้ง และเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องพึงระลึก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดวังวนเดิมๆ ที่ทำให้ประเทศหยุดอยู่กับที่ ไปไหนไม่ได้ ขณะที่ประเทศอื่นๆเจริญก้าวหน้าไปมาก
เมื่อถามว่า เงื่อนไขในขณะนี้สามารถ ทำให้ม็อบจุดติดหรือไม่ เหมือนเช่นในอดีต เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องไปทำหน้าที่บริหารประเทศที่จังหวัดเชียงใหม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เราก็เห็นว่าไม่มีเงื่อนไขอะไร เรื่อง MOU 44 ก็ทำกันมาตั้งแต่ปี 2544 ก็ไม่ทำให้เสียดินแดน เป็นเรื่องหลักการเจรจา ถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการเจรจาเลย ยังไม่ตั้งคณะกรรมการด้วยซ้ำ แล้วเมื่อเจรจาแล้วเสร็จก็ต้องนำเข้าเพื่อรับความเห็นชอบจากรัฐสภา
" ผมขอย้ำนะว่าเราผ่านวิกฤตเช่นนี้ มีมาช้านานแล้ว ก็ไม่อยากให้ประเทศกลับไปสู่วังวนเดิมๆ ให้เดินหน้าไปอย่าให้ถอยหลัง" นายชูศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร อยู่ได้อีกไม่ถึง 1 ปี นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เป็นคำพูดทางการเมืองถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะหากใครไปเป็นฝ่ายค้านก็จะไม่มีทางพูดว่ารัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี ขณะที่รัฐบาลเองก็ต้องพูดว่าจะทำอย่างไรให้อยู่ครบเทอม
เมื่อถามว่า มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอมหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เห็นมีอะไรไม่มีเรื่องหนักใจไม่มีเรื่องคอขาดบาดตาย
เมื่อถามว่าคำร้องในชั้นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องยุบพรรคเพื่อไทย กังวลหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่ได้วิตกกังวลอะไร