ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ, พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์, พ.ต.ท.ธนศักดิ์ สว่างศรี, พ.ต.ท.อภิชน ขันกา, พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์ รอง ผกก.1 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.มณเฑียร ธงเทียน สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.จักรพันธ์ ใบพิมาย รอง สว. กก.1 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม น.ส.จิราวดีฯ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 237/2564 ลงวันที่ 3 ก.พ. 64 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านในพื้นที่ ม.8 ต.พันดอน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากช่วงเดือนมิถุนายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพบว่า บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โฆษณาชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าเล่นพนันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ โดยจากการตรวจสอบเว็บไซต์ดังกล่าว พบว่า เป็นเว็บพนันออนไลน์ที่เปิดให้เล่นพนันทายผลฟุตบอล และเกมคาสิโนออนไลน์ประเภทต่างๆ ซึ่งเปิดให้มีการเสี่ยงทายเล่นพนันได้เสียเงินจริงและยังพบเงินหมุนเวียนในบัญชีรับโอนเงินจำนวนมาก สำหรับเจ้าของ บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว แม้จะไม่มีบัญชีธนาคารที่ใช้รับโอนเงินจากการเล่นพนันออนไลน์ แต่มีพฤติการณ์ในลักษณะลงโฆษณาเชิญชวนบุคคลทั่วไปให้เข้าเล่นพนันผ่านเว็บไซต์พนันออนไลน์ โดยมีญาติพี่น้องและลูกน้องใกล้ชิด เปิดบัญชีเงินฝากที่ใช้รับโอนเงินจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ดังกล่าว พบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวน 31 ราย โดยแต่ละรายมีการแบ่งหน้าที่กันในการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ และการยักย้ายถ่ายเทเงินที่ได้
จากผู้เล่นพนัน ต่อมา พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดข้างต้น ทั้งหมด 31 ราย โดยหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. ได้ขอหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นหาพยานหลักฐาน
พร้อมจับกุมเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวและบุคคลใกล้ชิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปกว่า 20 ราย อย่างไรก็ตามยังคงมีผู้ต้องหาที่ไหวตัวทันและหลบหนีออกจากที่อยู่เดิม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้ เนื่องจากมีการกระทำความผิดที่มีลักษณะของเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม ปัจจุบันยังมีผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่ 3 ราย
จากการสืบสวนพบว่า น.ส.จิราวดีฯ 1 ใน 3 ผู้ต้องหา ที่ยังไม่ถูกจับกุม ได้หลบหนีมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.พันดอน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี โดยมักจะเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึง ลงพื้นที่ทำการสืบสวนหาตัวผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว ได้สังเกตเห็นหญิงไทยมีลักษณะตำหนิรูปพรรณตรงกับผู้ต้องหายืนอยู่บริเวณหน้าบ้านพักในพื้นที่ ม.8 ต.พันดอน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวและเข้าตรวจสอบ พบว่า ตรงกับบุคคลตามหมายจับจริง จึงได้แสดงหมายจับและแจ้งสิทธิต่างๆ ให้ผู้ต้องหาทราบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปทำบันทึกจับกุมที่ สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี พร้อมทั้งได้ลงบันทึกประจำวันและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การยอมรับตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ขณะที่ทำงานอยู่ที่ร้านอาหารของเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ได้เปิดบัญชีธนาคาร พร้อมเปิดหมายเลขโทรศัพท์ ให้นางสาวบานเย็นฯ (มารดาของเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว) โดยผู้ต้องหาจะได้ค่าตอบแทนในการเปิดบัญชีดังกล่าวพร้อมกับเงินเดือน เดือนละประมาณ 5,000 บาท หลังจากเกิดเรื่องราวเป็นคดีความว่า ผู้ต้องหามีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ผู้ต้องหาก็มีปากเสียงกับนางสาวบานเย็นฯ และหลบหนีกลับภูมิลำเนา จากนั้นไม่นานเพื่อนที่ทำงานอยู่กับนางสาวบานเย็นฯ ได้ชักชวนให้กลับไปอยู่ด้วยกัน โดยอ้างว่า กลับมาจะได้รับเงินเดือน ผู้ต้องหาจึงกลับมาแต่กลับไม่ได้เงินตามที่เพื่อนบอก จึงมีปากเสียงกันอีก ผู้ต้องหาจึงหลบหนีกลับภูมิลำเนาอีกครั้งจนถูกจับกุม