บุรีรัมย์ รวบแก๊งแขกปากี ตระเวนหลอกซื้อของร้านชำ
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมตัวชายชาวปากีสถาน จำนวน 4 คน ที่แกล้งเข้าไปทำทีใช้เงินแบงก์ 1,000 ซื้อของภายในร้านชำ เมื่อได้เงินทอนแล้วพยายามบ่ายเบี่ยงทำพูดจาภาษาต่างชาติ เพื่อให้ร้านค้างง ก่อนจะฉวยโอกาส ดึงทั้งเงินทอนและแบงก์1,000 ที่ใช้ซื้อของหลบหนี
เมื่อวันที่ 26 พ.ย.67 พ.ต อ.ยุทธพงษ์ รอดนวล ผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ (ผกก.สืบสวน ภจว.บุรีรัมย์) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ (กก.สส.ภ.จว.บุรีรัมย์) ได้ทำการควบคุมตัวชายชาวปากีสถาน จำนวน 4 คน ประกอบด้วย มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมที่ กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ (กก.สส.ภ.จว.บุรีรัมย์)
โดยตำรวจได้ทำการติดตามจับกุมชายชาวปากีสถานทั้ง 4 คน ได้ที่บริเวณสี่แยกธนาคารกรุงเทพ ถนนสุนทรเทพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้พร้อมของกลางน้ำดื่มอัดลม 2 กระป๋อง ,รถยนต์เก๋ง 1 คัน และธนบัตรไทยอีกจำนวนหนึ่ง
หลังสืบสวนทราบว่า ชายชาวปากีสถานทั้ง 4 คน ได้ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ตามร้านค้าต่างๆ ในหลายจังหวัด โดยจะทำทีเข้าไปซื้อสินค้าต่างๆ ในร้านค้าที่เจ้าของร้านส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และยื่นธนบัตรไทยฉบับละ 1,000 บาท ให้เจ้าของร้าน จากนั้นทำทีเป็นยกเลิกการซื้อ หรือวิธีการต่างๆ โดยพูดจาเป็นภาษาต่างประเทศ ที่เจ้าของร้านไม่เข้าใจ เมื่อเจ้าของร้านนำเงินทอนมาคืนให้ คนร้ายกลุ่มนี้ก็จะใช้วิธีการทำให้เจ้าของร้านเผลอ และดึงธนบัตร 1,000 บาท คืนจากแม่ค้าพร้อมกับเงินทอน ก่อนจะรีบเดินออกไปพร้อมกับสินค้า
ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า คนร้ายกลุ่มดังกล่าวได้เข้ามาก่อเหตุยังร้านเนื้อย่างแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอเมืองบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 18 พ.ย.67 แต่เจ้าของร้านรู้ทันเสียก่อน และได้โพสเพสบุ๊คเตือนภัย ไปกับกลุ่มร้านอาหารใน จ.บุรีรัมย์ ต่อมาเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 67 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สืบสวนทราบว่า ได้มีกลุ่มชาวต่างชาติ ซึ่งมีลักษณะเหมือนแก็งแขกขาว เดินอยู่ภายในบริเวณตลาดไนท์บาซ่า อำเภอเมืองบุรีรัมย์
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ โดยวางกำลังโดยรอบตลาดและติดตามดูพฤติการณ์ ของกลุ่มชายชาวปากีสถาน ซึ่งพบว่าทั้งหมมมีจำนวน 4 คน และใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว กทม. มีผู้ขับขี่จอดรถอยู่ในรถ และชายชาวปากีสถานทั้ง 4 คน ได้แยกกันเดินไปตามร้านค้าต่างๆ และทำทีซื้อสินค้าภายในร้าน แต่ไม่สามารถก่อเหตุกับร้านค้าในตลาดไนท์บาซ่าได้ จึงได้พากันขึ้นรถและขับรถไปก่อเหตุที่ร้านขายของชำแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บริเวณถนนรมย์บุรี ซอยพิทักษ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปสอบถามรายละเอียด การซื้อขายของชายคนดังกล่าว กับทางร้านแจ้งว่าได้ขายสินค้าคือน้ำอัดลมโคคาโคลา จำนวน 2 กระป๋องๆละ 16 บาท ให้กับชายดังกล่าว โดยชายดังกล่าวได้จ่ายเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ทางร้านจึงได้นับเงินทอนให้ชายดังกล่าวเป็นเงิน 968 บาท ชายดังกล่าวก็ได้พูดจาเป็นภาษาต่างประเทศ ซึ่งทำให้ฟังไม่รู้เรื่อง และชายดังกล่าว ได้ดึงเงินไปมาจนทางร้านสับสนมึนงง ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะได้ดึงธบัตรฉบับละ 1,000 บาท ไปพร้อมกับเงินทอน ด้วยความตกใจและสับสนทางงานจึงนึกขึ้นได้ในภายหลังว่าไม่ได้รับเงิน
ก่อนที่ตำรวจจะติดตามจับกุมตัวชายคนดังกล่าว พร้อมเพื่อนร่วมแก๊งได้ทั้ง 4 คน และนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นการจับกุม”