วันที่ 26 พ.ย.2567 นายคารม พลพรกลาง  ในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า เมื่อศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาให้กรมที่ดินดำเนินการตามมาตรา 61  ประมวลกฎหมายที่ดิน และหากผลการพิจารณาเป็นอย่างไร   ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมที่ดินที่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามนั้น

กรมที่ดินมีหน้าที่รักษาทรัพย์สมบัติของแผ่น  และต้องรักษาสิทธิของประชาชน ประกอบกับโฉนดที่ดินเป็นเอกสารมหาชน  การจะเพิกถอนโฉนดที่ดินซึ่งเป็นเอกสารมหาชน   จะต้องเป็นการออกเอกสารคลาดเคลื่อน หรือไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา  61

นายคารม กล่าวว่า จากผลของคำพิพากษาของศาลปกครองกลางในคดีหมายเลขแดงที่ 582/2566 ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยกับกรมที่ดิน ผู้ถูกฟ้องคดีที่  1  และอธิบดีกรมที่ดินผู้ถูกฟ้องคดีที่   2  ซึ่งผลของคำพิพากษาของศาลปกครองกลางดังกล่าว  ได้มีคำพิพากษาให้อธิบดีกรมที่ดิน ( ผู้ถูกฟ้องคดีที่2) ปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา  61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 วรรคสอง ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน  นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด และยกฟ้องในส่วนของผู้ถูกฟ้องที่ 1 นั้น จะเห็นได้ว่าคำพิพากษาของศาลปกครองกลางนั้นไม่ได้ชี้ว่าจะต้องมีการเพิกถอนที่ดินบริเวณดังกล่าวแต่อย่างใด  แต่ให้อธิบดีกรมที่ดินได้ดำเนินการตามมาตรา  61  ประมวลกฎหมายที่ดิน และให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ซึ่งคืออธิบดีกรมที่ดินซึ่งย่อมมีอำนาจที่จะเพิกถอนหรือไม่ถอนเพิกถอนตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายที่ดิน  หลังจากทราบผลการสอบสวนแล้ว

“เรื่องดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามคำสั่งศาล ไม่มีบุคคลใดจะไปแทรกแซงหรือครอบงำหรือสั่งการได้  ถึงแม้นายอนุทิน ชาญวีรกูลจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็ตาม  เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามคำสั่งศาล ซึ่งเป็นสถาบันที่ประชาชนให้ความเคารพและเชื่อถือ และสมควรอย่างยิ่งที่ ทุก ๆ  ฝ่ายควรจะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางศาล  และทางราชการ  ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ควรมีการแสดงความคิดเห็นที่อาจสร้างความเสียหายและสับสนให้กับสังคม   เพราะย่อมจะไม่เป็นธรรมกับทุกคนเกี่ยวข้อง  “นายคารม ย้ำ

นายคารม ระบุนายอนุทิน   ชาญวีรกูล  ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวมาตลอดว่าจะไม่มีการช่วยเหลือบุคคลใด  ให้ทุกอย่างดำเนินการให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย   ไม่ว่าสื่อมวลชนหรือนักกฎหมายก็ไม่ควรนำเสนอข่าวที่สร้างความสับสนให้กับประชาชน หรือใช้ความเป็นนักกฎหมายออกมาพูดหรือแสดงความคิด   จนทำให้เกิดความเสียหายและสับสนต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  ทั้งที่ก็ได้มีการดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางแล้ว

“ในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทยและในฐานะนักกฎหมายหากเรารู้จักเคารพการทำหน้าที่ของแต่ละฝ่าย  คำพิพากษาของศาลปกครองกลางดังกล่าวข้างต้น  เมื่อกรมที่ดินได้ออกโฉนดที่ดินไปให้กับประชาชนไปแล้ว   โฉนดที่ดินถือเป็นเอกสารมหาชน หากที่จะมีการเพิกถอนโฉนดที่ดินก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าทิ่ดินที่ออกโฉนดมานั้น   มีการออกโฉนดโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งกรมที่ดินมีหน้าที่ในการคุ้มครองสิทธิ์ของประชาชน   ที่สำคัญหากการออกโฉนดที่ดินไปแล้ว แต่มีการเพิกถอนได้ง่าย  และไม่มีขบวนการสอบสวนและพิสูจน์สิทธิอย่างถูกต้อง  ก็จะทำให้ไม่มีความเชื่อถือในโฉนดที่ดิน    ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิที่สำคัญและเป็นเอกสารมหาชน  ”  นายคารม กล่าว