โดนแล้ว! "ศาลอาญา" ออกหมายจับ "สามารถ-มารดา" เซ่นคดีคลิปเสียงตบทรัพย์ "บอสพอล" ด้าน "อธิบดีดีเอสไอ" เผยเหตุออกหมายจับเพราะเจอเส้นทางเงินกว่า 100 ล้าน โอนเข้าบัญชีมารดา ก่อนโอนเข้าบัญชี "สามารถ" พบเป็นการโอนเงินมาจาก "บอสพอล-บอสปีเตอร์" ทุกเดือน ส่วน "เจ้าตัว" จนมุมถูกจับที่จ.เชียงราย ขณะที่ "ทนายวิฑูรย์" พาพยานฝั่ง "ดิไอคอน" ให้ปากคำดีเอสไอประมาณ 200 ราย แจงเงิน
จากกรณีที่มีการเปิดเผยคลิปเสียง นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เรียกรับทรัพย์สิน (เงิน) จาก นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ "บอสพอล" ในคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 พ.ย.67 ศาลอาญาได้พิจารณาตามคำร้องของกรมสอบสวน คดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยอนุมัติออกหมายจับที่ 1118/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ให้จับกุม นางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ แม่ของนายสามารถ และหมายจับที่ 5682/2567 ลงวันที่ 24 พ.ย. 67 ให้จับกุม นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ข้อหาว่าร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2546 มาตรา 5(1) (3) มาตรา 9 และมาตรา 60 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
โดยมีหลักฐานตามสมควรว่า กรณีมีหลักฐานตามสมควรว่า นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ซึ่งได้หรือน่าจะได้กระทำความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี ,ได้หรือน่าจะได้กระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่า จะหลบหนี หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานฉะนั้นให้จับตัว นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ไปส่งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ภายในอายุความ 15 ปี เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมาย แต่ไม่เกินวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2581
ต่อมา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าตรวจค้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง บนถนนราชพฤกษ์-จรัญ กรุงเทพมหานคร ไม่พบตัวนายสามารถ แต่พบนางวิลาวัลย์มารดาของนายสามารถ
เจ้าหน้าที่จึงได้พาตัวนางวิลาวัลย์เข้ามายังดีเอสไอ เพื่อเตรียมสอบปากคำตามขั้นตอนต่อไป
ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าภายหลังศาลอนุมัติหมายจับนายสามารถ ว่า เป็นการขยายผลมาจากกรณีการดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก ก่อนหน้านี้ ดีเอสไอ ได้มีการสืบสวนหาพยานหลักฐาน จนสามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหา 18 บอสดิไอคอนฯ ประกอบด้วย พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545
จากการสืบสวนเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ ธุรกรรมทางการเงิน มาอย่างต่อเนื่อง จากกลุ่มบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด จึงพบว่า จากกรณีที่บรรดาผู้เสียหายในคดี ได้มีการโอนเงินชำระเพื่อซื้อสินค้าหรือเปิดบิลเป็นผู้ตัวแทนจำหน่าย กับบัญชีธนาคารของบริษัท ดิไอคอนฯ
จากนั้นบัญชีของบริษัทฯ ก็ได้โอนต่อมาที่ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ต่อมาบอสพอล และบอสปีเตอร์ก็ได้มีการโอนต่อมายังกลุ่มที่ถูกศาลออกหมายจับ คือ มารดาของนักการเมือง และนักการเมือง ส.
ทั้งนี้ ดีเอสไอได้สืบสวนพบจากร่องรอยการทำธุรกรรมรับโอนเงินระหว่างบอสพอล และนักการเมืองรายนี้นั้น พบตั้งแต่ช่วงปี 2564 โดยในส่วนบัญชีธนาคารแม่ของนักการเมืองรายนี้ มียอดเงินรายได้รวมกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นการรับโอนเงินจากทางอื่น แต่ในส่วนที่รับโอนโดยตรงจากบอสพอลมีประมาณ 2.5 ล้านบาท ทั้งยังมีในส่วนของการรับโอนจากบอสปีเตอร์ หรือนายกลด เศรษฐนันท์ หลักหลายแสนบาท
อย่างไรก็ตาม ส่วนที่จะกล่าวอ้างว่าเงินหลายล้านบาทนี้เป็นเงินทำบุญหรือเงินใดถือเป็นสิทธิของผู้ต้องหา ที่สามารถชี้แจงกับพนักงานสอบสวนได้ แต่ดีเอสไอก็จะต้องพิสูจน์ว่าเป็นเงินทำบุญจริงหรือไม่ และเหตุใดจึงเป็นเงินทำบุญทุกเดือนเพราะมีการโอนเงินบางครั้งหลักแสนบาท บางครั้งหลายแสนบาท และยังเป็นไปตามวงรอบทุกเดือน ดีเอสไอจึงมองว่าพฤติการณ์ลักษณะนี้ไม่อาจใช่เงินทำบุญ
พ.ต.ต.ยุทธนา ยังเผยอีกว่า ส่วนเหตุ ที่ดำเนินคดีในฐานความผิดฟอกเงินทางอาญา เพราะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน หรือมีลักษณะปกปิดอำพราง อีกทั้งนักการเมืองรายนี้ยังใช้เงินผ่านบัญชีแม่ของตัวเอง เพราะเมื่อบอสพอล หรือบอสปีเตอร์โอนเงินมายังบัญชีแม่ของนักการเมือง ส. รายนี้ จากนั้นแม่ของนักการเมืองก็จะโอนต่อมายังบัญชีนักการเมือง จึงยืนยันว่าทั้งคู่มีการกระทำความผิดอาญาฐานฟอกเงิน ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า สำหรับหมายจับในครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้ต้องหา 3 ราย 1.นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล 2.นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิชและ 3.นางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ มารดานายสามารถ
วันเดียวกัน มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดู่ จ.เชียงราย ได้ควบคุมตัวนายสามารถได้แถวริมถนนใกล้วัดห้วยปลากั้ง ขณะนี้ ผกก.สภ.บ้านดู่ ได้ควบคุมตัวไว้เบื้องต้น พร้อมประสานส่งตัวผู้ต้องหาเข้ากรุงเทพฯ เพื่อให้ดีเอสไอสอบสวนต่อไป
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อาคารเอ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุง เทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ "บอสพอล" พาตัวแทนผู้จำหน่ายบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้การเป็นพยานฝั่งผู้ต้องหา ประมาณ 200 ราย
โดย นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้แทนจำหน่ายกลุ่มนี้กลายเป็นผู้เสียหาย ได้รับผลกระทบขายสินค้าไม่ได้ ตั้งแต่เป็นคดีความ จึงต้องการยืนยันว่า บริษัท ดิไอคอน ไม่ได้ฉ้อโกง สินค้าขายได้มาตลอด สังคมฟังคนแค่หมื่นคนที่แจ้งความ แต่คนแสนคนขายสินค้าได้ ยังกิน ยังใช้สินค้าอยู่ จึงมาให้ปากคำเป็นพยานให้ดิไอคอน
ด้าน น.ส.แอนนี่ ชาวบุรีรัมย์ อายุ 42 ปี ผู้แทนขายดิไอคอนตั้งแต่ปี 62 เป็นตัวแทนยืนยันว่า บริษัทดิไอคอน จะสอนการทำธุรกิจ ทำออนไลน์ได้ ให้เราเป็นคนดี ทำมาหากินไม่โกงใคร จึงมาเป็นพยานให้กับบริษัทดิไอคอนฯ ตอนนี้พอบริษัทดิไอคอน มีคนทำให้เสียหายขายของไม่ได้ และตัวแทนขายหลายคนถูกอายัดยัญชี ทำให้เดือดร้อน บางคนไม่ได้ขายมาหลายปีก็ยังถูกอายัด
ทั้งนี้ นายวิฑูรย์ กล่าวถึงกรณีดีเอสไอเข้าจับกุม นายสามารถ และแม่ ในคดีฟอกเงิน ว่า คดีความผิดฟอกเงิน (115/2567) และคดีแชร์ลูกโซ่ (119/2567) ดีเอสไอยังอยู่ระหว่างสอบไม่แล้วเสร็จ ความผิดมูลฐานยังไม่ชัดเจน ทำไมไม่ออกหมายเรียกก่อน แต่กลับออกหมายจับนายสามารถและแม่ ซึ่งตนจะมีการปรึกษาทีมทนายว่าจะดำเนินการอย่างไร อาจจะมีการร้องเรียนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิด ตามมาตรา 157
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ดีเอสไอไปจับเขามาเพิ่มจะต้องตอบคำถามให้ได้ความผิดมูลฐานที่อยู่ในมือของดีเอสไอในวันนี้ยังไม่ส่งศาล ยังไม่ชัดว่าผิดหรือไม่ผิด แต่ก็เล่นคดีฟอกเงินกันแล้วจะต้องตอบคำถามกับหน่วยงานต่างๆ ให้ได้ว่าคุณทำหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ รวมทั้งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ไม่เคยเข้าไปสอบปากคำบอสพอลถึงประเด็นเรื่องเส้นทางการเงิน ซึ่งตอนนี้ตนมีหลักฐานที่บอสพอล ยืนยันว่าเงินทั้งหมด เป็นเงินค่าอะไรบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเงินทำบุญอีกส่วนหนึ่งเป็นเงินที่ยืมกันปกติ เพราะแม่ของนายสามารถกลับบอสพอลมีความสนิทสนมกัน ซึ่งข้อมูลตรงนี้ตนได้ส่งให้กับทนายของนายสามารถเป็นที่เรียบร้อยเพื่อที่จะให้ทนายของนายสามารถนำข้อมูลมาให้กับทางดีเอสไอ
นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ส่วนเงิน 2.5 ล้านบาทที่ "บอสพอล" โอนเข้าบัญชีแม่นายสามารถ บอสพอล บอกว่า เป็นเงินที่ให้นายสามารถและแม่ยืม โดยโอนครั้งละ 100,000-300,000 บาท และหลายรอบ ไม่ใช่การยืมกันทุกเดือนแต่เป็นยอดเงินรวมประมาณ 3 ปี ตั้งแต่ปี 64-66 เอกสารการกู้ยืมเงินมีบ้างและไม่มีบ้าง ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากทำบุญ และที่โอนให้บัญชีแม่เพราะเป็นแม่ลูกกัน นายสามารถก็ขอเงินจากแม่ได้ ซึ่งหลักฐานแชตการ สนทนาการยืมเงินกันนั้น นายวิฑูรย์ ระบุว่า ส่วนใหญ่จะโทรศัพท์คุยกันมากกว่า ตามประสาคนสนิทกัน