"ภูมิธรรม" ระบุ "สนธิ" นำทัพมวลชนลงถนนต้านรัฐบาลใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญได้ แต่ขอให้คิดถึงสิ่งที่เคยทำให้ประเทศชาติเสียหายจนถึงปัจจุบัน ลั่นรัฐพร้อมถูกตรวจสอบ อวย "ทักษิณ" ช่วยหาเสียงคว้าชัยเลือกนายก อบจ. "อนุทิน" ไม่หวั่น "ลุงสนธิ" ปลุกม็อบลงถนน บอกทุกคนมีสิทธิแต่ต้องอยู่ใต้กฎหมาย

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 25 พ.ย.67 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณี นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประเมินสถานการณ์ทางการเมืองใกล้สุกงอม และหากจำเป็นพร้อมออกมาม็อบครั้งสุดท้ายในชีวิต ว่า ไม่เป็นไร เพราะนายสนธิสามารถใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญได้ แต่ขอให้คำนึงถึงสิ่งที่เคยทำให้ประเทศชาติเสียหายมาถึงปัจจุบัน อย่าให้เป็นอย่างนั้น ขอให้ดูที่เหตุและผล และรัฐบาลพร้อมถูกตรวจสอบอยู่แล้ว เราก็ทำงานตามหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ หากมีอะไรจริงๆ ตามกระบวนการมีขั้นตอนอยู่แล้ว ดังนั้น ให้กระบวนการตัดสินใจเองเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ถ้ารัฐบาลผิดพลาด สามารถใช้กระบวนการยุติธรรมมาดำเนินการได้

"ขอให้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เพราะวันนี้ประชาชนเดือดร้อนค่อนข้างมาก การปิดเมืองหรือการชุมนุมเหมือนในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ใครถูกหรือผิดยังไม่ต้องพูดถึงก็ได้ แต่ผลเสียหายกับประเทศชาติ มันรุนแรงเหลือเกิน อยากให้คำนึงถึงตรงนี้ไว้มากๆ"
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ประชาชนก็รู้เองว่าชีวิตกำลังเป็นอย่างไร และคิดว่าประชาชนอยากพึ่งการแก้ปัญหามากกว่าการขับเคลื่อนทางการเมือง ยืนยันไม่กังวล รัฐบาลตั้งใจทำสิ่งที่ดี และคิดว่าผลงานรัฐบาลจะเป็นตัวกำหนด

นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงผลการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ที่ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง ว่า จ.อุดรธานีถือว่าเป็นจังหวัดที่พรรคเพื่อไทยได้ทำงานมาต่อเนื่อง การได้ชัยชนะ อย่างน้อยก็ถือเป็นการรักษาฐานคะแนนเสียงไว้ได้ ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยชนะอย่างถล่มทลาย เพราะ นายทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยหาเสียง จะทำให้กระแสของพรรคเพื่อไทยกลับมาฟีเวอร์หรือไม่นั้น อย่าไปตีความมากเกินไป แต่ทั้งนี้คงปฏิเสธไม่ได้ถึงความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อนายทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย และได้ทำนโยบายต่างๆ ให้เป็นที่พึงพอใจของประชาชนในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้ง สส.ก็ตื่นตัวในการลงพื้นที่ และทำงานอย่างเต็มที่ตามนโยบายของพรรค เมื่อได้รับชัยชนะก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา

"การได้รับชัยชนะจาก จ.อุดรธานี มีหลายปัจจัย มีทั้งในส่วนของนายทักษิณที่ลงไปช่วยหาเสียง ซึ่งมีความนิยมในตัวท่าน ในผลงานที่ท่านทำมา ประสบความสำเร็จมาโดยตลอด รวมถึงนักการเมืองที่ปรับตัวในการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และมีอะไรอีกหลายอย่าง มันไม่ได้ตอบทั้งหมดแต่ก็สะท้อนการทำงานของแต่ละส่วน อาจจะ บอกว่าที่นี่ดี ที่นี่ไม่ดี ก็ต้องไปดูในพื้นที่ แต่อย่างน้อยที่สุด สส. พรรคฯ ลงไปทำงานเต็มที่มากขึ้น ทำให้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้น"
ส่วนผลเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำว่า จ.อุดรธานี เป็นเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทยโดยแท้หรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อุดรธานี เป็นจังหวัดที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยแข็งแรงมาก หลายคนเรียกว่า "เมืองหลวง" ก็อาจจะเป็นอย่างนั้นได้ เพราะเป็นเมืองใหญ่เมืองสำคัญ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงผลการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ที่ น.ส.วาริน ชิณวงศ์ ผู้สมัคร ได้รับชัยชนะ โดย นายอนุทิน กล่าวติดตลกว่า ในหัวใจของผมมีแต่นายก อบจ.ปทุมฯ เท่านั้น อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคน ทุกอย่างเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม การต่อสู้เข้มข้น ทุกคนต่อสู้เต็มที่ ผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามา ก็ขอให้กำลังใจ อย่าเพิ่งท้อแท้ ตำแหน่งอะไรก็ตามสามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้

เมื่อถามว่า ภูมิใจมากขึ้นหรือไม่ที่สามารถเจาะพื้นที่ภาคใต้ได้มากขึ้น นายอนุทิน กล่าวว่า การรับใช้บ้านเมืองไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด ก็เป็นความภาคภูมิใจของเรา ทุกคนต้องการรับใช้บ้านเมือง ถือว่าเป็นบุญวาสนาที่เราทำสิ่งเหล่านี้ ตนและพรรคพวกทุกคนก็คิดคล้ายกันหมด ไม่ถือว่าทำเพื่อความภาคภูมิใจ แต่ทำเพราะว่ามีโอกาสได้ทำตามความตั้งใจ ทำแล้วคนส่วนใหญ่มีความสุขได้ประโยชน์ เราก็จะทา

เมื่อถามถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ประชามติ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้หารือกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในประเด็นว่าเป็นกฎหมายการเงินหรือไม่ เพื่อลดเวลาการยับยั้งจาก 180 วัน เหลือเพียง 10 วัน และไม่กังวลหากการทำประชามติจะล่าช้าถึงปี 2569 เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมค่อยพูด เพราะในงวดหน้าพรรคภูมิใจไทยต้องเป็นเจ้าภาพดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล

สำหรับกรณีที่นายสนธิผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการและเจ้าของรายการสนธิทอล์ค ออกมาระบุการเมืองใกล้สุกงอมพร้อมลงถนน และเตรียมจัดชุมนุมทุกเดือนตั้งแต่ปีหน้า ว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย ทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมายก็ทำไป เราจะเห็นเหมือนกันหมดไม่ได้ ต้องมีความเห็นต่าง ต้องได้สิทธิ เราต้องใจกว้างพอที่จะปรับปรุงแก้ไขในการกระทำหรือแนวคิด เพื่อให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้ด้วยดี

เมื่อถามว่า นายสนธิพูดว่าเป็นการสู้กันระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทยในการหยิบยกคดีเขากระโดงกับที่ดินอัลไพน์ นายอนุทิน กล่าวว่า ผิดตั้งแต่คำว่าสู้กันแล้ว ตอนนี้ยังทำงานในคณะรัฐบาลด้วยความสามัคคีและความร่วมมือ ตนได้รับข้อสั่งการจากนายกฯ ตลอดเวลา และรัฐมนตรีพรรคร่วมทุกพรรคก็ให้ความร่วมมือทุกเรื่อง ไม่มีเรื่องสู้กัน

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย แสดงความยินดีกับนาย ศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงกระแสพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะนายทักษิณที่มีผลงานเป็นที่ประทับใจของประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานมาโดยตลอด จึงคิดว่าสิ่งที่นายทักษิณทำไว้ ในสมัยพรรคไทยรักไทย จนมาถึงพรรคเพื่อไทย เป็นผลงานที่จับต้องได้ จึงทำให้ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยชนะอย่างท่วมท้น

เมื่อถามว่า สามารถเรียกได้หรือไม่ว่า การชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นผลงานของนายทักษิณ ที่ลงไปช่วยผู้สมัครหาเสียง นายสุริยะ กล่าวยอมรับว่า นายทักษิณมีส่วนสำคัญอย่างมาก ส่วนพื้นที่อื่นนายทักษิณจะไปช่วยหาเสียงหรือไม่นั้น ตนคิดว่าในอนาคต พื้นที่ใดหากนายทักษิณไปแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อผู้สมัครก็คงจะไป ซึ่งทางพรรคมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรค เพื่อกำหนดพื้นที่ที่จะส่งผู้สมัครและจะพิจารณาว่าพื้นที่ใดนายทักษิณจะลงไปช่วยหาเสียงบ้าง

เมื่อถามว่า มีโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งสนาม อบจ. แบบโดมิโนหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือผลงานของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลจะต้องพยายามทำให้ดีที่สุด ซึ่งกระแสต่างๆก็มาจากผลงาน พร้อมยกตัวอย่างในสมัยพรรคไทยรักไทย ที่ทำได้ดี จึงมีโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้งแบบโดมิโน

ส่วนที่นายทักษิณคาดหวังว่าการเลือกตั้ง สส.ในสมัยหน้าพรรคเพื่อไทยจะได้ สส.เกิน 200 ที่นั่ง น่าจะเป็นไปได้ใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า เงื่อนไขสำคัญที่สุดคือรัฐบาลต้องทำเศรษฐกิจให้ดีให้ได้ โดยเชื่อว่ารัฐบาลได้มีการระดมความคิดกัน และในส่วนของพรรคเพื่อไทยก็มีการระดมความคิดว่าจะทำอย่างไรเป็นลำดับเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นฟู