# นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี ว่า ส่งผลต่อการเลือกตั้งในอนาคต โดยเฉพาะการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 นี้ และหลังจากนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปช่วยหาเสียงด้วยหรือไม่ นั้นขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะส่งผู้สมัครนายก อบจ.ในนามของพรรคเพื่อไทย ในกี่จังหวัด
นายประเสริฐ กล่าวว่า ที่ผ่านมานายทักษิณเคยมีผลงาน เช่น กองทุนหมู่บ้าน ที่ถือว่าเป็นนโยบายหนึ่งที่ชัดเจนมาก และเป็นผลงานของนายทักษิณในอดีต รวมถึง 30 บาทรักษาทุกที่ ถือเป็นความสำเร็จ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่นายทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี และในวันนี้ประชาชนยังชื่นชมอยู่
# นายนิกร จำนง เลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ กล่าวถึงกรณี นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ กฎหมายประชามติเป็นกฎหมายการเงิน เพื่อลดเวลาพักร่างกฎหมาย 180 วัน ว่า ร่างกฎหมายประชามติไม่เป็นกฎหมายการเงิน และประธานสภาผู้แทนราษฎรลงนามชี้ไปแล้วว่าไม่เป็นกฎหมายการเงิน ตามข้อบังคับประชุมสภาฯ หากประธานมองเป็นกฎหมายการเงิน ก็จะชี้เป็นกฎหมายการเงิน หรือเมื่อประธานมองเป็นกฎหมายการเงิน แต่มีผู้เห็นต่างว่าไม่เป็นกฎหมายการเงิน ตามกลไกสภาฯ หากตกลงกันไม่ได้ ต้องเชิญประธาน กมธ.ทุกคณะมาตัดสินร่วมกับประธานสภาฯ แต่ขั้นตอนดังกล่าวเลยมาแล้ว
# นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการและเจ้าของรายการสนธิทอล์ค ออกมาระบุ การเมืองใกล้สุกงอมพร้อมลงถนน และเตรียมจัดการชุมนุมทุกเดือนตั้งแต่ปีหน้า ว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย
ทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมายก็ทำไป เราจะเห็นเหมือนกันหมดไม่ได้ ต้องมีความเห็นต่าง ต้องได้สิทธิ์ คนที่วิพากษ์วิจารณ์ก็มีสิทธิ์ถูกต้อง เราต้องใจกว้างพอที่จะปรับปรุงแก้ไขในการกระทำหรือแนวคิด เพื่อให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้ด้วยดี