ยอดขายรถยนต์วูบทั้งใน-ตปท. "ส.อ.ท."หั่นเป้าผลิตปี 67 เหลือ 1.5 ล้านคัน ต่ำสุดรอบ 4 ปี
เมื่อวันที่ 25 พ.ย.67 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนตุลาคม 2567ว่า ได้ปรับประมาณการการผลิตรถยนต์ของสมาชิกกลุ่มฯในปี 2567 ปรับเป้าผลิตรถยนต์ปี 2567 จาก 1.7 ล้านคัน เป็น 1.5 ล้านคัน ลดลง 200,000 คัน ต่ำสุดในรอบ 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ 1.6 ล้านคัน โดยปรับการผลิตขายในประเทศลดลงจาก 550,000 คันเป็น 450,000 คัน และการผลิตเพื่อส่งออกลดลงจาก 1.15 ล้านคัน เป็น 1.05 ล้านคัน ยอมรับว่า สถานการณ์รถยนต์บ้านเราน่าเป็นห่วงมาก ที่ผ่านมาเราปรับเป้าผลิตลดลงไปแล้วครั้งหนึ่ง ปรับเฉพาะยอดผลิตในประเทศจาก 750,000 คัน เป็น 550,000 คัน ลดลงมาแล้ว 200,000 คัน ยังยืนเป้าผลิตเพื่อส่งออกที่ 1.15 ล้านคัน แต่ครั้งนี้สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น จึงต้องปรับเป้าหมายอีกรอบ
ส่วนยอดผลิตได้ในเดือนตุลาคม 2567 มีทั้งสิ้น 118,842 คัน ลดลง 25.13% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยอดผลิตเพื่อส่งออกลดลง 7% และผลิตเพื่อขายในประเทศลดลง 51.7% ส่งผลให้จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,246,868 คัน ลดลง 19.28% โดยเฉพาะรถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนตุลาคม 2567 ผลิตได้ทั้งหมด 70,514 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 27.83 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 757,709 คัน เท่ากับร้อยละ 60.77 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 22.33 โดยแบ่งเป็น
ส่วนผลิตเพื่อส่งออก เดือนตุลาคม 2567 ผลิตได้ 87,741 คัน เท่ากับ 73.83% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 7% ส่วนเดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 861,916 คัน เท่ากับ 69.13% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ระยะเวลาเดียวกัน 4.69% ด้านผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เดือนตุลาคม 2567 ผลิตได้ 31,101 คัน เท่ากับร้อยละ 26.17 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 51.70 และเดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 ผลิตได้ 384,952 คัน เท่ากับร้อยละ 30.87 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ร้อยละ 39.89 รถยนต์นั่ง เดือนตุลาคม 2567 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 20,294 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 29.14 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ผลิตได้ 217,383 คัน เท่ากับร้อยละ 45.84 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ลดลงร้อยละ 25.22
โดยด้านยอดขายถยนต์ภายในประเทศของเดือนตุลาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 37,691 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2567 จำนวน 36.08% ต่ำสุดในรอบ 54 เดือนนับตั้งแต่ยกเลิกล๊อคดาวน์จากการระบาดโรคหวัด 19 เดือนพฤษภาคม 2563 จากการเข้มงวดในการให้กู้ซื้อรถยนต์ของสถาบันการเงินเป็นหลัก ส่งผลให้จำนวนบัญชีผู้กู้ซื้อรถยนต์ในไตรมาสสามมี 6,365,571 บัญชีลดลงจากไตรมาสสอง 75,377 บัญชีเท่ากับ 1.2% และลดลงจากไตรมาสสามปี 2566 จำนวน 199,655 บัญชีหรือร้อยละ 3.0 จำนวนเงินหนี้รถยนต์ไตรมาสสาม 2,465,204 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสสองร้อยละ 2.8 และลดลงร้อยละ 5.8 จากไตรมาสสามปี 2566 รถบรรทุกลดลงจากเศรษฐกิจของประเทศที่ยังอ่อนแอเติบโตในอัตราต่ำและหนี้ครัวเรือนสูง ดัชนีภาคอุตสาหกรรมขยายตัวต่ำที่ร้อยละ 0.1 ในไตรมาสสาม
ขณะที่การส่งออก รถยนต์สำเร็จรูป เดือนตุลาคม 2567 ส่งออกได้ 84,334 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 5.08 แต่ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 ร้อยละ 20.23 ส่งออกลดลงเพราะฐานสูงในเดือนเดียวกันของปี 2566 ที่ส่งออกถึง 105,726 คัน ส่งผลให้ส่งออกลดลงทุกตลาด ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษคือตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลางและยุโรปที่สงครามอิสราเอลกับฮามาสขยายมากขึ้น อาจจะส่งผลกระทบการส่งออกไปยังตลาดดังกล่าวน้อยลง อีกความขัดแย้งที่ต้องติดตามแบบไม่กระพริบตาที่จะกระทบเศรษฐกิจโลกคือสงครามยูเครนกับรัสเซียที่อาจขยายไปประเทศอื่นซึ่งกระทบการส่งออกรถยนต์และสินค้าอื่นๆ เดือนม.ค. – ต.ค. 2567 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 853,221 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกัน 8.02%
สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนตุลาคม 2567 เดือนตุลาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 6,651 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคมปีที่แล้วร้อยละ 32.19 ส่งผลให้เดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 82,304 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ตุลาคมปีที่แล้วร้อยละ 6.12 ขณะที่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 112,819 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ตุลาคมปีที่แล้วร้อยละ 56.61 โดยยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 213,173 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 94.70
#ยอดขายรถยนต์ #ข่าววันนี้ #สอท #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ #สงคราม #รถยนต์ไฟฟ้า