บทเรียน ปชป.อีกครั้ง บ้านใหญ่ "เดชเดโช" สะเทือน พ่ายนายก อบจ.นครศรีธรรมราช

ภายหลังจากการปิดหีบเลือกตั้ง 17.00 น.ที่ผ่านมาการนับคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เป็นไปท่ามกลางความสนใจของประชาชนชาวนครศรีธรรมราช จำนวนมากโดยเฉพาะคู่แข่งขันที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษคือหมายเลข 1 นางกนกพร เดชเดโช นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช มารดาของนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์เช่นเดียว ส่วนคู่แข่งจากสายสีน้ำเงินพรรคภูมิใจไทย คือนางสาววาริน ชิณวงศ์ ในหมายเลข 2 ผลการนับคะแนนหลายพื้นเช่นที่เช่นในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ปรากฏว่านางสาววาริน ชิณวงศ์ สามารถเอาชนะขาดได้ทุกหน่วยเลือกตั้ง ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินของประชาชนที่เข้ามาติดตาม

ส่วนในอีกหลายอำเภอส่วนใหญ่แล้วนางวารินเป็นผู้ชนะ สร้างความดีใจให้กับผู้ติดตามหลังจากพบว่ามีคะแนนนำอย่างต่อเนื่อง และเมื่อมีการนำผลคะแนนทยอยมายังศูนย์อำนวยการเลือกตั้งของ กกต.อบจ.นครศรีธรรมราช ที่ศาลาประชาคมโรงละคร สนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช มีประชาชนอีกไม่น้อยมารอติดตามและแสดงความยินดีเมื่อนางนางสาววารินทร์มีคะแนนขยับนำและทิ้งห่างไปอย่างต่อเนื่อง และในเวลา 24.35 แม้จะนับคะแนนเสร็จจากทุกหน่วยแล้วแต่การรวบรวมคะแนนนั้นยังไม่แล้วเสร็จ

ส่วนความเคลื่อนไหวของนางสาววาริน ชิณวงศ์ ซึ่งกลายเป็นว่าที่นายก อบจ.นครศรีธรรมราช คนใหม่ได้ใช้สถานที่ในโรงแรมราวดีเป็นศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง มีผู้สนับสนุนและประชาชนจำนวนมากเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากที่ผลคะแนนเป็นที่ชัดเจนว่านางสาววาริน เป็นผู้ชนะในการเลือกตั้ง ได้เปิดแถลงขอบคุณทุกคะแนนเสียงชาวนครศรีธรรมราชที่ได้มอบให้ และทุกคะแนนคือคะแนนบริสุทธิ์ ทั้งยังยืนยันว่าเป็นคะแนนประกาศว่าหลังจากนี้ อบจ.นครศรีธรรมราช จะสร้างโอกาสให้ทุกคนและทุกคนสามารถเป็นตัวแทนอาสาเข้ามาทำหน้าที่ได้

สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่อีกครั้งในความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ และบทบาทของบ้านใหญ่ในตระกูลเดชเดโช ที่พยายามขยายฐานอำนาจในการเมืองระดับชาติและการเมืองท้องถิ่น ประกอบกับกระแสความนิยมของพรรคประชาธิปัตย์กำลังตกต่ำลงอย่างหนัก การเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช การเลือกตั้งครั้งกลายเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญ

ส่วนการใช้สิทธิ์ของประชาชนพบว่าต่ำกว่าความคาดหมายเพียง 55.22 เปอร์เซ็น จากผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด 1,209,703 จำนวนหน่วยเลือกตั้ง 2,167 หน่วย