# จากกรณีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ยื่นคำร้องและพยานต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้วินิจฉัยสั่งการให้ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 หรือไม่ เนื่องจากเห็นว่ามี 6 พฤติการณ์ เป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบัน นั้นศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย
ส่วนประเด็นที่2 ที่ผู้ร้อง ร้องว่า นายทักษิณมีพฤติกรรมฝักใฝ่คบหาร่วมคิดกับสมเด็จฯ ฮุน เซน อดีตนายกฯ ของประเทศกัมพูชา และควบคุมการบริหารของรัฐบาลผ่านพรรคเพื่อไทย โดยการเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเล ในเขตพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทยกัมพูชาในลักษณะเอื้อประโยชน์ให้กับทางกัมพูชา ทั้งที่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นอธิปไตยของประเทศไทย ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
# น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพรรคเพื่อไทย กระทำการอันเป็นการล้มล้างการปกครอง "ดีคะ เพราะก่อนหน้านี้ ไม่ได้เป็นข่าวดีตลอดเวลา ข่าวที่ได้รับวันนี้ถือว่าเป็นข่าวดี รู้สึกดีใจ"
นอกจากนี้นายกฯ ยังได้ตอบคำถามว่าจะลดแรงกระเพื่อมทางการเมืองหรือไม่ นั้น การเมืองต้องเดินหน้าต่อไป รัฐบาลก็ต้องทำงานต่อไป และกรณีของนายทักษิณ สิ่งที่ท่านทำก็ไม่ใช่สิ่งถูกฟ้องร้อง ทำให้คิดว่าทุกคนที่ให้กำลังใจนายทักษิณอยู่
# นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตีความร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การออกเสียงประชามติ เป็นกฎหมายการเงินหรือไม่ ว่า การพิจารณาว่าเป็นกฎหมายการเงินตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 138 วรรคท้าย จะลดเวลาการพักกฎหมายจาก 180 วัน เป็น 10 วัน
โดยจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) หากเรื่องนี้เข้าเงื่อนไขเป็นกฎหมายการเงิน ไม่ต้องรอถึง 180 วัน ถือเป็นความเห็นทางกฎหมาย อย่างไรก็ตามยืนยันว่า แม้กฎหมายจะไม่มีถ้อยคำเกี่ยวกับการเงิน แต่ใครก็รู้ว่าการทำประชามติต้องใช้เงิน