วันที่ 21 พ.ย.2567 ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย​ กล่าวถึงกรณีนายชูศักดิ์ ​ ศิรินิล​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุหากสภาใดสภาหนึ่งไม่เห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติประชามติ ตามกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ รัฐสภา​ ทำให้ต้องยืดระยะเวลา 180 วันและอาจเข้าเกณฑ์กฎหมายการเงินที่ต้องพักไว้​ 10 วัน​ และจะขอหารือหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลในประเด็นนี้ว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตีความ​ แต่ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยได้แสดงจุดยืน ว่าควรจะเป็น การทำประชามติ 2 ชั้น​ หรือ Double majority ซึ่งจุดยืนตรงนี้เราก็เห็นความจำเป็นอยู่ เพราะพอมีประเด็นเรื่องเกาะกูดและ การเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติต่างๆ เราจึงต้องใช้ความระมัดระวังในการแก้ไขกฎหมาย​ให้รอบคอบ เนื่องจากหากมีการลงมติไปแล้วจะได้ไม่มีใครพูดว่าผิดพลาดในภายหลัง หรือว่าเราทำไม่รอบคอบ​

" นี่เป็นเจตนารมณ์ของพรรคภูมิใจไทยอะไรที่จะทำประชามติต้องเป็นการทำประชามติจริงๆ และต้องมีส่วนร่วมจริงๆ​เพื่อตัดสินใจ เรื่องสำคัญและเกี่ยวข้องกับประเทศของเขา ​ไม่ใช่ประชามติ ของคนแค่มาออกเสียง​ " นายอนุทิน ​กล่าว

เมื่อถามว่าหากนำผล​กรรมาธิการ​ร่วม​ประชามติมาโหวตในสภาล่าง ก็จะยืนยันกรณีเสียงข้างมาก 2 ชั้นใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า​ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎระเบียบเราแสดงเจตนารมณ์ของเราแล้ว ใครเห็นด้วยกับเราก็โหวตตามใครไม่เห็นด้วยก็โหวต ไม่เหมือนกันผลออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องเคารพ ขอยืนยันว่าตรงนี้ไม่เกี่ยวกับความขัดแย้ง ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีความเห็นที่ไม่สอดคล้องกันได้ ใช้หลักการประชาธิปไตยในการตัดสิน สิ่งใดที่จะมาบังคับใช้

เมื่อถามว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะเสร็จภายในรัฐบาลนี้ตามนโยบายของรัฐบาลหรือไม่​ นายอนุทิน​กล่าวว่า ทุกอย่างมีเงื่อนเวลา มีขั้นตอน ถ้าแก้ได้ก็แก้ ถ้าแก้ไม่ทันก็ต้องรอสภาชุดหน้า