"เครดิตบูโร" ฉายภาพหนี้ครัวเรือน Q3/67 NPL ยังเร่งขึ้น ห่วงหนี้เสีย SME พุ่งแรง
เมื่อวันที่ 21 พ.ย.67 นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) หรือ NCB โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า
ขอนำเรียนรายงานภาระหนี้สินภาคครัวเรือนจากสถาบันการเงิน 157 แห่งที่เป็นสมาชิกของเครดิตบูโร ครอบคลุมประชาชนคนไทยและผู้มีถิ่นฐานในประเทศไทยที่มีหนี้สินกับสถาบันการเงินสมาชิก ซึ่งปัจจุบันครอบคลุมประมาณกว่า 30 ล้านคน
จากฐานข้อมูลสถิติที่ไม่มีตัวตนในไตรมาสที่ 3ปี 2567 มีรายละเอียดดังนี้
ภาพที่ 1 หนี้ครัวเรือนในระบบเครดิตบูโรอยู่ที่ 13.6 ล้านล้านบาท(หนี้ครัวเรือนไทยทั้งหมด 16.3 ล้านล้านบาท) อัตราการเติบโต 0.5% yoyถ้าเป็น QoQ จะ -0.2% สรุปคือสินเชื่อไม่โต เศรษฐกิจในไตรมาส 3 เติบโต 3% ในช่วง 9 เดือนโต 2.3% สินเชื่อธุรกิจคนตัวเล็ก -4.6% yoy สินเชื่อเบิกเกินบัญชี -4.5%yoy ดำเนินนโยบายไทยคำอังกฤษคำมาจนสินเชื่อให้กับผู้คนเดินถนนถอยลงได้ระดับนี้ต้องกราบขอประชดประชันด้วยการปรบมือชื่นชมครับ.. หมดคำสิ่เว้า..
ภาพที่ 2 ระดับของ NPLs ก็เป็นไปตามคาดมาอยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 8.8% ของหนี้รวม 13.6 ล้านล้านบาท มันคือเส้นสีแดงที่พุ่งขึ้นมาชัดเจนตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2566 พักฐานไตรมาสที่ 4 ปี 2566 แล้วไปต่อตั้งแต่ปี 2567 พร้อมๆกับมาตรการกลับไปสู่ความเป็นปกติ(normalize) เศรษฐกิจค่อยๆโตกลับมาอย่างเชื่องช้า, มีเรื่อง การให้กู้อย่างรับผิดชอบ, การแก้หนี้เรื้อรัง แก้หนี้ครบวงจร ภาพของเส้นหนี้เสียวิ่งจาก 7.7%สู่ 8.8% วันก่อน IMF. แวะมาคุยที่สำนักงานก็พยักหน้ากับผลกระทบหลังโควิดและยิ้มอ่อนเมื่อถามถึงตัวเลขความสำเร็จของการแก้หนี้แบบครบวงจรตลอดเส้นทางการเป็นหนี้ โดยเฉพาะแก้หนี้เรื้อรังว่ามีจำนวนกี่บัญชีที่เข้ามาตรการแก้ไขปิดจบ หรือมาตรการ debt consolidation ว่ามียอดทำได้เท่าใด
ภาพที่ 3 หนี้ NPLs. ประมาณ 1.2ล้านล้านบาทโดยประมาณ เติบโต 14.1%yoy, 3.4%QoQ ใจชื้นตรงที่ NPLs.สินเชื่อบ้าน, รถยนต์, เครดิตคาร์ด, สินเชื่อส่วนบุคคลนิ่งๆ หรือโตไม่มากจากไตรมาสก่อน แต่ที่กังวลมากคือสินเชื่อธุรกิจคนตัวเล็กหรือ SME.มันเติบโต 20%yoy 5.2%QoQ อันนี้คือประเด็นสำคัญมากๆ
ภาพที่ 4 SM ครับ ยอดคงค้าง Q3 ปี 2567มาหยุดที่ 4.8แสนล้านบาทโดยประมาณ ลดลงมาทั้ง yoy, QoQ น่าจะเบาใจขึ้นได้บ้าง
สองภาพสุดท้ายคือการปรับปรุงโครงสร้างหนี้หลังเป็นหนี้เสียที่เรียกว่าทำ TDR.ซึ่งตัวเลขสะสมมาอยู่ที่ 1.03 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7.6% ของ 13.6ล้านล้านบาท ที่ไม่ค่อยดีคือมันอืด มันเติบโต QoQ. ติดลบประมาณ 3%
ในส่วนของ DR.หรือปรับโครงสร้างหนี้เชิงป้องกันก่อนเป็นหนี้เสียยอดสะสมตั้งแต่เมษายน 2567 มาหยุดที่ 1.2 ล้านบัญชี 6.45 แสนล้านบาท
ทั้งหมดคือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และหลายท่านจะได้นำไปประกอบการพิจารณากับมาตรการแก้หนี้บ้าน หนี้รถยนต์ หนี้ SMEs ที่กำลังจะประกาศความชัดเจนในเร็ววันนะครับ
#เครดิตบูโร #หนี้ครัวเรือน #ข่าววันนี้ #เอสเอ็มอี #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์