"เจ๊อ้อย" เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมคดีฉ้อโกง 71 ล้าน และปมให้ "ทนายตั้ม" ทำพินัยกรรม ด้าน "รอง ผบช.ก." เผยสอบครั้งนี้เป็นขั้นตอนสำคัญในการรวบรวมข้อมูลเพื่อความชัดเจนของคดี
จากกรณีนายษิทรา หรือทนายตั้ม เบี้ยบังเกิด ถูกกล่าวหาโกง น.ส.จตุพร หรือเจ๊อ้อย อุบลเลิศ เศรษฐินีพันล้าน จำนวน 71 ล้านบาท หลังถูกหลอกให้ลงทุนแพลตฟอร์มหวยออนไลน์ นายษิทราถูกกองปราบฯจับกุมพร้อมนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา ขณะนี้ทั้งคู่อยู่ในการควบคุมของกรมราชทัณฑ์ระหว่างการฝากขัง ล่าสุดนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เข้าให้ปากคำกองปราบฯในฐานะพยานพร้อมเปิดประเด็นการพยายามเป็นผู้จัดการมรดกและการจัดทำพินัยกรรมของ "เจ๊อ้อย" รวมทั้งการติดจีพีเอส ในรถยนต์ ทำให้ "เจ๊อ้อย" รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุด ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อวันที่ 20 พ.ย.67 พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญ น.ส. จตุพร อุบลเลิศ หรือ "พี่อ้อย" มาให้ปากคำเพิ่มเติมกรณีเงิน 71 ล้านบาท ที่ถูก นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ฉ้อโกง โดยเน้นตรวจสอบคำให้การก่อนหน้านี้ว่ามีส่วนใดขาดตกบกพร่อง และเพื่อให้สำนวนการสอบสวนครบถ้วนสมบูรณ์และสำหรับประเด็นเรื่องพินัยกรรมที่ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก ในการสืบสวนที่ผ่านมาไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ในวันนี้อาจมีการสอบถามเพิ่มเติมว่าพินัยกรรมเกี่ยวข้องกับคดีในส่วนใดหรือไม่
ทั้งนี้ การเชิญให้ปากคำวันนี้มีเพียงพี่อ้อยที่ตำรวจนัดหมายมาเพียงคนเดียวเท่านั้น การให้ปากคำครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการรวบรวมข้อมูลเพื่อความชัดเจนในคดีที่อยู่ระหว่างดำเนินการ
ต่อมา เมื่อเวลา 10.15 น. พี่อ้อย พร้อมผู้ติดตาม อีก 3 คน เดินทางมาถึงยัง บก.ป. โดยเข้าทางด้านหลังของอาคาร ผ่านลานจอดรถชั้น 2 ก่อนเข้าสู่ห้องพนักงานสอบสวน ซึ่งตัวของพี่อ้อยปรากฏตัวในชุดแจ็คเก็ตสีขาวและหมวกสีชมพู โดยผู้ติดตาม 3 คน ยังถือถุงอาหารจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าเตรียมไว้สำหรับการรับประทานระหว่างการสอบปากคำ เนื่องจากกระบวนการอาจใช้เวลานานหลายชั่วโมง