เมื่อเวลา 14.05 น. วันที่ 20 พ.ย. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพรรค พท. ยุติการกระทำที่เข้าข่ายการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในวันที่ 22 พ.ย.ว่า เป็นดุลยพินิจของศาลว่าจะเห็นอย่างไร แต่เราสู้ไปว่ามันไม่เข้าเกณฑ์ล้มล้างการปกครอง คนไปคุยกัน ไปดูรายละเอียดกัน ไปทำนู่นทำนี่ แสดงความเห็นเรื่องนั้นเรื่องนี้มันจะเป็นการล้มล้างการปกครองไปได้อย่างไร พวกเราทราบดีว่าการล้มล้างการปกครองต้องเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่นี่มันตรงกันข้าม เช่น คุยกันว่าจะตั้งรัฐบาล มันจะไปล้มล้างการปกครองตรงไหน ตนคิดว่ามันไม่เข้าเกณฑ์ เราก็สู้ไปว่าไม่เข้าเกณฑ์ และทราบจากข่าวว่าทางอัยการสูงสุดมีความเห็นว่าไม่เข้าเกณฑ์ แต่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้หรือไม่ เป็นดุลยพินิจของศาล ตนไม่ก้าวล่วง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่อัยการสูงสุดมีความเห็นแบบนี้ ทำให้พรรค พท.ใจชื้นหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า จริงๆ รู้อยู่แล้วว่าข้อกฎหมายมันไปไม่ได้ เรารู้ตั้งแต่ต้นแล้วหลังจากเห็นคำร้องว่ามันไปไม่ได้ เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง จะมีการฟ้องกลับนายธีรยุทธหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า อันนั้นต้องว่ากันอีกที ดูอีกทีว่าศาลไม่รับคำร้องเพราะอะไร เมื่อถามย้ำว่า มีโอกาสฟ้องกลับหรือไม่ เพื่อเป็นการห้ามปราบให้มีการฟ้องร้องอะไรที่ไม่มีมูลอีก นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวตนไม่อยากมีอะไรที่เรียกว่านิติสงคราม ฟ้องกันไปฟ้องกันมา ใจจริงอยากให้ประเทศมันเดินหน้า ไม่อยากเอาเรื่องที่ไม่มีสาระอะไร แต่หลายคนในพรรคก็คิดอยู่เหมือนกันว่าเราจะหยุดขบวนการนี้อย่างไร ซึ่งก็ว่ากันไป