บริษัท ไทยแสงเจริญ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำด้านการจัดหารถโดยสารเพื่อบริการสาธารณะในประเทศไทย และปัจจุบันเป็นตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของรถบัสไฟฟ้า Farizon ประกาศความสำเร็จในการนำเข้ารถบัสไฟฟ้า Farizon C10E รุ่นแรกสู่ตลาดไทย พร้อมประกาศความร่วมมือกับสาขาวิศวกรรมอุตสาหการและโลจิสติกส์อัจฉริยะ (Industrial Engineering and Smart Logistics) ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและระบบการผลิต (School of Manufacturing Systems and Mechanical Engineering) สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มุ่งเน้นการศึกษาและพัฒนาการออกแบบผลิตภัณฑ์ภายในห้องโดยสาร โดยยึดหลัก User-Centric Design ซึ่งได้จากการวิเคราะห์ผลความพึงพอใจของกลุ่มผู้ใช้เป้าหมาย เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการเพิ่มความปลอดภัยและปรับปรุงการใช้งานให้เหมาะสมยิ่งขึ้นกับกลุ่มผู้บริโภค ทั้งนี้เป็นรถบัสไฟฟ้าที่พัฒนาโดย Farizon แบรนด์ยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ภายใต้ Geely Holding Group ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของจีน นำเสนอรถบัสไฟฟ้า Pure Electric Urban Bus รุ่นนี้โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า 100% พร้อมระยะทางวิ่งที่ตอบโจทย์การใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะกลาง มาพร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐานสากล และเทคโนโลยีประหยัดพลังงานล่าสุด
เมื่อวันที่ 20 พ.ย.67 คุณชัชชัย วรธนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยแสงเจริญ เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า "การนำเข้ารถบัสไฟฟ้า Farizon C10E ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมขนส่งสาธารณะของไทยสู่ยุคพลังงานสะอาด นอกจากจะช่วยลดมลพิษทางอากาศแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานในระยะยาวผ่านค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่าและประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่สูงกว่า" ในด้านความร่วมมือทางวิชาการ บริษัทฯ ได้ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในการนำรถบัส Farizon C10E มาใช้เป็นต้นแบบสำหรับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายในการสร้างองค์ความรู้และพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทย
รองศาสตราจารย์ ดร.ชวลิต จีนอนันต์ รักษาการผู้อำนวยการ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร และ รองศาสตราจารย์ ดร.สุชาดา เหรียญโมรา ประธานหลักสูตรวิศวกรรมอุตสาหการและโลจิสติกส์อัจฉริยะ (Industrial Engineering and Smart Logistics) ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและระบบการผลิต (School of Manufacturing Systems and Mechanical Engineering) ได้กล่าวเสริมถึงความร่วมมือด้านงานวิจัยในครั้งนี้ว่า เป็นความร่วมมือทางการศึกษาที่สำคัญ ซึ่งช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ ทั้งในด้านประสบการณ์ระบบการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและทักษะด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Design and Development) พร้อมเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้และฝึกฝนประสบการณ์จริงจากเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่