เมื่อวันที่ 20 พ.ย.67 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ทำเนียบเครมลิน เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้ลงนามในกฤษฎีกาอนุมัติหลักการใหม่สำหรับการใช้อาวุธนิวเคลียร์แล้ว
ทั้งนี้ กฤษฎีการะบุว่า การรุกรานต่อรัสเซียและพันธมิตรของรัสเซียจากชาติศัตรูใด ๆ ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการทหารกับชาติอื่น จะถือเสมือนการรุกรานจากทั้งกลุ่มพันธมิตรของชาติศัตรู
นอกจากนี้ การรุกรานจากชาติซึ่งไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ แต่ได้รับการสนับสนุนจากชาติซึ่งมีอาวุธนิวเคลียร์ จะถือเสมือนการรุกรานร่วมกันต่อรัสเซีย
กฤษฎีกายังระบุว่า รัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อการป้องปราม โดยจะเป็นอาวุธขั้นสุดท้าย และใช้เมื่อถูกสถานการณ์บังคับเท่านั้น ขณะที่รัสเซียจะใช้ความพยายามทั้งหมดเท่าที่จำเป็นในการลดภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ และป้องกันมิให้ความตึงเครียดระหว่างรัฐนำไปสู่ความขัดแย้งทางการทหาร ซึ่งรวมถึงการทำสงครามนิวเคลียร์
นอกจากนี้ กฤษฎีการะบุว่า รัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อการป้องปรามต่อชาติศัตรูที่มีศักยภาพสูง ซึ่งเป็นประเทศหรือกลุ่มพันธมิตรทางการทหารที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ หรือมีความสามารถสูงทางการทหาร
ขณะเดียวกัน รัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อการป้องปรามต่อชาติศัตรูที่อนุญาตให้มีการใช้ดินแดนหรือทรัพยากรเพื่อการรุกรานต่อรัสเซีย