วันที่ 19 พ.ย.67 ที่ศาลาว่าการ กทม. นายนภาพล จีระกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตบางกอกน้อย ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (บางส่วน) เปิดเผยผลการศึกษาแนวทางการชำระหนี้ให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือ บีทีเอสซี ในส่วนค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2 ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ว่า เฉพาะหนี้ส่วนดังกล่าวมีจำนวน 14,549,503,800 บาท รวมเงินต้นและดอกเบี้ย เริ่มนับตั้งแต่วันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา คือ 26 ก.ค.67 ถึงวันที่ 21 ม.ค.68 หรือ 180 วัน ปัจจุบันมีดอกเบี้ยวันละ 2.7 ล้านบาท

 

จากการประชุมหารือครั้งล่าสุด (14พ.ย.67) สำนักการจราจรและขนส่ง รายงานว่าศาลปกครองสูงสุดไม่รับคำร้องพิจารณาคดีใหม่ กทม.จึงต้องรีบดำเนินการเสนอเรื่องเข้าสภาฯ เพื่อให้ความเห็นชอบชำระค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงที่ค้างชำระ และคณะกรรมการวิสามัญฯ เห็นว่าหนี้สิ้นส่วนอื่นของรถไฟฟ้าสายสีเขียวถึงกำหนดชำระแล้ว ฝ่ายบริหารควรเจรจากับบริษัท BTS ขอให้ปลอดดอกเบี้ยหรือคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำ และ กทม.ควรรีบชำระรายการทั้งหมด เพื่อประหยัดงบประมาณของ กทม.

 

โดยปัจจุบัน กทม.มีหนี้ 3 ส่วนหลัก คือ 1.โครงสร้างพื้นฐานส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จำนวน 55,127,318,260.49 บาท 2.งานติดตั้งระบบ (E&M) ส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จำนวน 19,173,745,585.04 บาท 3.งานเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) ส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2 จำนวน 24,068,625,620.13 บาท รวมทั้งสิ้น 98,369,689,465.66 บาท ยังไม่รวมดอกเบี้ย

 

ทั้งนี้ มีการชำระค่างานระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล หรือ E&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 เมื่อวันที่ 2 เม.ย.67 จำนวน 2.3 หมื่นล้านบาท

 

นายนภาพล กล่าวว่า จุดประสงค์วันนี้ กทม.ต้องการจะชำระหนี้ทั้งหมด ซึ่งมีดอกเบี้ยรวมประมาณวันละ 7 ล้านบาท แต่ปัจจุบันเงินสะสมจ่ายขาดมีไม่เพียงพอ สามารถใช้ได้ประมาณ 30,000 ล้านบาทเท่านั้น ตามกฎหมายต้องเหลือคงคลังไว้ 5,000 ล้านบาท จึงแนะนำให้ฝ่ายบริหาร กทม.เจรจาลดดอกเบี้ย เมื่อมีจำนวนเงินเพียงพอในแต่ละปี จะได้ทยอยจ่ายต่อไป

 

ส่วนค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 ซึ่งอยู่ในสัญญาเดียวกัน และอยู่ระหว่างการฟ้องร้องนั้น แนะนำให้ กทม.เจรจาเรื่องแนวทางชำระกับบีทีเอส อย่างไรก็ตาม ไม่ควรสู้คดี เพราะจะยืดเวลาให้ดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้น สิ่งสำคัญตอนนี้คือเจรจาลดดอกเบี้ยทั้งหนี้ที่ครบกำหนดชำระและหนี้ในส่วนอื่น ๆ โดยอาจต้องชำระเป็นรายปี หากเป็นหนี้ที่ต้องชำระตามกฎหมาย ในอนาคตอาจมีการจัดตั้งงบประมาณรายปีเพื่อชำระหนี้ และหากการพิจารณาการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 สามารถหาข้อสรุปได้รวดเร็ว ก็จะสามารถทำให้ กทม.วางแผนด้านงบประมาณการเงินและการชำระหนี้รายปีได้ง่ายขึ้น

 

โดยในวันที่ 22 พ.ย.นี้ สภา กทม.จะมีการพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พ.ศ. ... โดยจ่ายขาดเงินสะสมกรุงเทพมหานคร ตามที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเสนอ เนื่องด้วย กทม.มีความประสงค์ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2 ให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือ บีทีเอสซี ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ตามความจำเป็นที่หน่วยงานเสนอ จำนวน 14,549,503,800 บาท ซึ่งตนคาดว่าสภา กทม.จะเห็นชอบตามเหตุผลความจำเป็นที่เกิดขึ้น แต่หากไม่ให้ความเห็นชอบ เชื่อว่าจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมาภายหลัง