"รมว.วธ." เผยไทยเตรียมจัด 24 ริ้วขบวน อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ "พระเขี้ยวแก้ว" จากจีน ประดิษฐานชั่วคราวในไทย เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 อย่างยิ่งใหญ่
เมื่อวันที่ 18 พ.ย.67 น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า ได้เตรียมความพร้อมในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ในปี 2568 พร้อมเปิดให้ประชาชนสักการะ ระหว่าง วันที่ 4 ธ.ค.67 - 14 ก.พ.68 รวม 73 วัน ณ บริเวณท้องสนามหลวง ล่าสุด อยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารมณฑป ที่ใช้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ตามแบบสถาปัตยกรรมผสมผสานศิลปะไทย - จีน
สำหรับการจัดเตรียมขบวนรถอัญเชิญฯ ในวันที่ 4 ธันวาคม จากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ไปยังลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ จากนั้น จะจัดขบวนอัญเชิญไปยังสนามหลวง 24 ขบวน ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงาน ของไทย - จีน องค์กรเครือข่าย 5 ศาสนา และกลุ่มชาติพันธุ์กว่า 2,700 คน
นอกจากนี้ ยังเตรียมจัดกิจกรรมระหว่างการประดิษฐานชั่วคราว ได้แก่ พิธีเจริญพระพุทธมนต์รับพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาถึงประเทศไทยวันที่ 4 ธ.ค. กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี พิธีทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ กิจกรรมเนื่องในวันตรุษจีน วันที่ 29 ม.ค. กิจกรรมเนื่องในวันมาฆบูชาวันที่ 12 ก.พ. และพิธีเจริญพระพุทธมนต์
และส่งพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) กลับสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 - 16 พ.ย. คณะผู้แทนไทยนำโดย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักยกรัฐมนตรี และนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางไปหารือถึงการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความราบรื่น
