วันที่18 พ.ย. 67 เวลา 14.02 น. พ.ต.ท.ศรีจันทร์ เรือนเงิน สว.สส.(สอบสวน) สภ.เมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่ามีอุบัติเหตุ รถ จยย. ชนเสาไฟฟ้า บริเวณ หน้าล้งรับซื้อผลไม้ แดง-นริศอินเตอร์ฟรุต บนถนนสุขุมวิทขาเข้าตัวเมือง หมู่ 2 ต.คมบาง อ.เมือง จ.จันทบุรี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง อาการสาหัส 1 ราย โดยกล้องวงจรปิดในล้ง ได้บันทึกภาพเหตุการณ์สลดไว้ได้
หลังรับแจ้งได้ประสานทีมแพทย์ฉุกเฉิน ร.พ.พระปกเกล้าฯและกำลังอาสากู้ภัย สว่างกตัญญูจันทบุรี ร่วมเดินทางตรวจสอบและให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ที่เกิดเหตุ พบร่างผู้ขับขี่เป็นหญิง 1 ราย อยู่อาการได้รับบาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส. ภัทราภรณ์ อายุ 22 ปี สภาพสวมกางเกงขายาวสีดำ เสื้อเชิ้ตนักศึกษาสีขาว สวมเสื้อคลุมสีดำทับ ตามร่างกายพบมีบาดแผลฉกรรจ์ บริเวณศีรษะ ใบหน้า เหนือคิ้ว มีอาการหายใจกระตุก ไม่รู้สึกตัว ไม่มีชีพจร ทางอาสากู้ภัยฯ และทีมแพทย์แพทย์ฉุกเฉินจึงได้ทำ ซีพีอาร์ ฟื้นคืนชีพ แต่ไม่เป็นผล ต่อมาทีมแพทย์ฉุกเฉินจึงได้ยืนยันว่าผู้บาดเจ็บ ได้เสียชีวิตลงในที่เกิดเหตุ
ขณะที่ทาง พ.ต.ท.ศรีจันทร์ เรือนเงิน สารวัตรเวรเจ้าของคดี ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถ จยย. ฮอนด้า สีนำเงิน ทะเบียน 1 กข 4340 จ.ตราด เสียหลักล้มอยู่โคนเสาไฟฟ้า สภาพด้านหน้ามีรอยชนพังเสียหาย ชิ้นส่วนอะไหล่ กระจายเกลื่อนทั่วบริเวณ ผลชันสูตรของแพทย์เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต มีบาดแผลฉกรรจ์ ที่ศีรษะ และใบหน้า ลำคอหัก เนื่องจากศีรษะฟาดเข้ากับเสาไฟฟ้าอย่างแรง จนหมวกกันน็อคกระเด็นหลุดออกจากศีรษะ
จากการสอบสวน นายคุณภัทร พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่าเป็นคนแรกที่มาพบผู้ประสบเหตุ นอนอยู่ข้างเสาไฟฟ้า ได้พยายามเรียก แต่พบผู้ประสบเหตุ
มีอาการหายใจกระตุก เลือดออกปากและจมูก ก่อนกู้ภัยฯ และพยาบาลฉุกเฉิน จะทำการช่วยเหลือทำ ซีพีอาร์ แต่ไม่สำเร็จ
ขณะที่ นางยุพิน อายุ 50 ปี เพื่อนของป้าผู้เสียชีวิต เล่าว่า น.ส.ภัทราภรณ์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ เดินทางข้ามจังหวัดมาจากที่พักใน จ.จันทบุรี เพื่อไปพบแพทย์
ที่ จ.ตราด ระยะทางไปกลับเกือบ 150 กิโลเมตร ระหว่างเดินทางกลับจันทบุรี ก็มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากอาการป่วยกำเริบ จนเกิดอาการวูบ ขี่รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าจนเสียชีวิตดังกล่าว
ทั้งนี้ น.ส.ภัทราภรณ์ เพิ่งเรียนจบจากคณะนิติศาสตร์ มหาลัยชื่อดังใน จ.จันทบุรี อยู่ระหว่างรักษาสถานภาพรอเข้ารับพระราชทานปริญญา โชคร้ายที่มาประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิตเสียก่อน
อย่างไรก็ตามสาเหตุอยู่ในระหว่างการสอบสวน เบื้องต้น แพทย์พระปกเกล้า ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการบันทึกภาพตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ก่อนประสานกู้ภัยฯนำร่างผู้เสยชีวิต ส่งโรงพยาบาลพระปกเกล้า เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนส่งมอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศล ในลำดับต่อไป