กู้ภัยรับแจ้งคนถูกฆาตกรรมตัดลิ้นเผาอำพรางท้ายรถยนต์กระบะดิ้นรถหนีตายอาการบาดเจ็บสาหัส ตำรวจตรวจสอบพบเป็นเหตุทำร้ายตัวเอง จากโรคซึมเศร้า ปัญหาจากภรรยาถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติหลอกโอนสูญเงินกว่า 5 ล้านบาท
วันที่ 18 พ.ย.67 เวลา 08.01 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า หน่วยกู้ภัยมาบอำฤตได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบมีคนถูกทำร้ายแล้วจุดไฟเผาหลังกระบะรถยนต์ แต่หนีรอดออกมาได้ มีอาการบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บริเวณทางสาธารณะบ้านน้ำพุ หมู่ 5 ตำบลปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร พร้อมกับแจ้งไปยัง ร.ต.ท.รัชพล คำมุงคุล รอง (สว.)สอบสวน สภ.มาบอำมฤต ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นจุดเปลี่ยวทางสาธารณะเป็นถนนลูกรังลงชายทะเลบ้านบางเบิด ใกล้กับเขตติดต่อ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบรถยนต์กระบะมิตซูบิชิตอนเดียวสีขาว ทะเบียน 1 ฒค 2730 กรุงเทพมหานคร สภาพเหลือแต่ซากถูกไฟไหม้หมดทั้งคัน
ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นเพศชายอายุประมาณ 60-65 ปี ได้หนีออกมาจากรถดิ้นทุรนทุรายอยู่ริมถนน ถูกไฟคลอกไหม้ทั้งตัวบาดเจ็บสาหัส เบื้องต้นพบผู้บาดเจ็บมีอาการถูกไฟไหม้ทั้งตัว มีบาดแผลถูกยิงที่ใต้คาง และพูดจาไม่ได้เนื่องจากลิ้นคล้ายถูกตัดเป็นแผล หน่วยกู้ภัยได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาลมาบอำมฤต และส่งต่อไปโรงพยาบาลชุพรเขตรอุดมศักดิ์ ก่อนที่ตำรวจจะไปถึงที่เกิดเหตุ
เมื่อตำรวจไปถึงตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบสภาพรถยนต์ถูกไฟเผาไหม้ทั้งคัน เป็นรถยนต์กระบะตอนเดียว ที่กระบะหลังติดกรงเหล็ก มีล้อยางรถยนต์จำนวนหลายล้อถูกไฟเผาไหม้จนเหลือเส้นเหล็กโครงล้อยางไหม้ดำขดอยู่จำนวนมาก จึงถ่ายภาพ และเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดในจุดเกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อภายหลังคือ นายณฐพจน์ อายุ 63 ปี อยู่บ้าน หมู่ 3 ตำบลถ้ำสิงห์ อ.เมือง จ.ชุมพร เป็นคนมีฐานะและเป็นเจ้าของสวนสละรายใหญ่ของ จ.ชุมพร
ต่อมาได้มีนางจิณณรัชต์ อายุ 50 ปี เป็นภรรยาของ นายณฐพจน์ ผู้บาดเจ็บได้เดินทางมาให้ปากคำกับ ร.ต.ท.รัชพล คำมุงคุล พนักงานสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.มาบอำมฤต ร่วมสอบปากคำด้วยตนเอง โดยนางจิณณรัชต์ ให้การว่านายณฐพจน์สามีตนเป็นโรคซึมเศร้ามานานแล้ว และมีปัญหามากขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมาจากการที่ตนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวต่างชาติอ้างว่าเป็นนักข่าวชาวไนจีเรีย ได้พูดคุยอ้างโน้นนี่นั่นเรื่องทำธุรกิจ จนตนหลงเชื่ออย่างสนิทใจ แล้วถูกหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีไปกว่า 5 ล้านบาท ตนมารู้ภายหลังว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นต์เตอร์ และตนเองก็ไม่ได้ไปแจ้งความเพราะเห็นว่ามีหลายคนที่ถูกหลอกเมื่อไปแจ้งความแล้วก็ไม่สามารถเรียกเงินคืนมาได้
โดยนางจิณณรัชต์ให้การต่อว่า เมื่อนายณฐพจน์สามีรู้ทำให้มีปัญหากันเรื่อยมา และสามีก็บอกกับตนว่าอยากฆ่าตัวตาย และเคยเขียนจดหมายลาตายมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้เกิดเหตุการณ์จริงตามที่ขู่ไว้ ตนก็ได้แต่ห้ามและปลอบใจ แต่สามีก็ยังทำใจไม่ได้ ส่วนตนทุกวันนี้ก็ต้องนั่งไปสมาธิทำใจให้สงบ และตอนเกิดเหตุได้มีตำรวจโทรมาบอกกับตน ซึ่งขณะนั้นตนได้นั่งสมาธิอยู่ที่โรงแรมชุมพรคาบาน่ารีสอร์ท หาดทุ่งวัวแล่น อ.ปะทิว
ด้าน พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.มาบอำมฤต กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนแรกได้แจ้งเป็นเหตุฆาตกรรม เมื่อพนักงานสอบสวนไปที่เกิดเหตุ พบมีแต่ซากรถยนต์ถูกเผาเหลือแต่ซาก และได้ประสานให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานลงมาเก็บรายละเอียดของหลักฐานทั้งหมด ส่วนผู้บาดเจ็บได้ถูกหน่วยกู้ชีพนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลมาบอำมฤต แต่อาการสาหัส ต้องส่งต่อไปที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
ซึ่งพ.ต.อ.ชนินทร์กล่าวต่อว่า หลังจากพนักงานสอบสวนลงพื้นที่และติดต่อประสานไปที่ภรรยาผู้บาดเจ็บและเชิญมาสอบปากคำก็ทราบว่า สามีเป็นโรคซึมเศร้ามานานแล้ว แต่มาเป็นหนักช่วง 2 ปี ที่ผ่านมานี้ เนื่องจากรู้ว่าภรรยาตนเองไปพูดคุยกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวต่างชาติแล้วถูกหลอกให้โอนเงินสูญไปกว่า 5 ล้านบาท และเคยคิดฆ่าตัวตายหลายครั้งแล้ว จนมาก่อเหตุในครั้งนี้
พ.ต.อ.ชนินทร์กล่าวถึงลักษณะการก่อเหตุคล้ายกับการเผาฆ่าอำพรางคดี จากสอบสอบสวนทราบว่า ผู้บาดเจ็บเคยบอกกับภรรยาว่าจะก่อเหตุในลักษณะนี้มาก่อนแล้ว จากการตรวจสอบพบว่า นายณฐพจน์ได้ขับรถออกจากบ้านช่วง 6 โมงเย็น โดยบรรทุกล้อยางรถยนต์ไปด้วยจำนวนมาก ไปถึงยังจุดเกิดเหตุประมาณค่ำๆ แล้วจอดรถจากนั้นได้จุดไฟเผาล้อยางหลังรถ แล้วเดินเข้าไปนั่งยังเบาะนั่งคนขับแล้วใช้อาวุธปืนขนาด .17 บรรจุกระสุนขนาด .22 ยิงตัวเองที่ใต้คางทะลุลิ้นกระสุนไปฝังอยู่ใต้ตาข้างซ้าย ไม่ถูกจุดสำคัญ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ แต่เมื่อไฟได้โหมไหม้มาจากหลังกระบะรถลุกลามมาที่เก๋งรถ และโหมไหม้ตัวนายณฐพจน์ที่บาดเจ็บ จนเปิดประตูรถวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือจนมีชาวบ้านไปพบแจ้งแจ้งกู้ภัยดังกล่าว
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจมากนักยังต้องเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุและพยานบุคล พยานสิ่งแวดล้อมอื่น ๆประกอบ จึงจะสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป