ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นับถอยหลังเพียงอีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้ง นายก อบจ.สุรินทร์ คือวันเสาร์ที่23พ.ย.67ที่จะถึงนี้ทำเอาบรรดาผู้สมัครนายก อบจ.สุรินทร์ ทั้ง5เบอร์ ต่างลงพื้นที่หาเสียงไปตามชุมชนและหมู่บ้านในอำเภอต่างๆ ทั้ง 17 อำเภออย่างแข็งขัน เพื่อชิงตำแหน่งมาไว้ให้ได้และเกมนี้ไม่มีใครต่างยอมแพ้ใครใครพลาดก็ถือว่าโชคร้ายคนที่ได้ก็ถือว่าโชคดีกันเลยครับ เรามา จับตาดูโค้งสุดท้ายมีอะไรดี แต่ละคนนำมาเสนอให้ท่านนำไปวิเคราะห์เพื่อนำไปพิจารณากากระบาตร ในวันที่23พ.ย.67
โดย เบอร์ 1 นางธัญพร มุ่งเจริญพร หรือในกลุ่มบรรดานักการเมืองเรียกขนานนามว่า"ซ้อหมวย" ดีกรีในขณะนี้ลงพื้นที่พร้อมด้วยกับ ด.ร.ปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส.สุรินทร์ เขต1พรรคภูมิใจไทย ที่ใครๆก็รู้จักชื่อเสียงกันโด่งดังไปไกลพาลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงกับพี่น้องประชาชนทุกหย่อมหญ้าเพื่อขอให้ได้เข้ามาพัฒนา เมืองสุรินทร์ ในนาม อบจ.สุรินทร์ ในครั้งนี้พร้อมกับที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทุกด้านที่พี่น้องประชาชนที่ตั้งตารอคอยมานานหลายสิบปี ที่ จ.สุรินทร์ ยังไม่มีโอกาสและยังด้อยพัฒนากว่าจังหวัดอื่นๆที่ทุกคนยังกล้ำกลืนมาอย่างต่อเนื่องเพียงขอให้ได้เข้าไปบริหารพร้อมนำประชาชนเข้ามาเป็นภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการพัฒนาสุรินทร์ให้เจริญไปมากกว่านี้
ขณะที่เบอร์ 2 นายพรชัย มุ่งเจริญพร อดีตนายก อบจ.สุรินทร์ ที่คว่ำหวอดกกับการทำงานมาอย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่าจะมีกระแสไม่เห็นด้วยที่ลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ ทำเอาพี่น้องประชาชนต่างได้วิพากวิจารณ์กันสนั่นไปทั้งเมืองเพราะสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุถึงแม้ว่าจะอธิบายให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้เข้าใจแต่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยและไม่เอาด้วยทำเอาคะแนนที่เคยกักตุนเองไว้กับมาสูญเสียไปบางส่วนถึงแม้ว่าจะมาถึงโค้งสุดท้ายแล้วก็ตามแต่ก็พยายามทำเอาความเข้าใจเพื่อพี่น้องประชาชนหวังคะแนนสงสารกับพี่น้องโปรดเห็นใจและเข้าใจในการทำงานด้านการเมืองเพราะอย่างน้อยก็ยังมีผลงานออกมาให้พี่น้องประชาชนในบางพื้นที่ได้รู้และได้เห็นและขอคะแนนสงสารจากพี่น้องประชาชน จึงหาเสียงแบบขอไปต่อก่องานที่ค้างคาเพื่อพัฒนาจังหวัดสุรินทร์ อีกครั้ง และขอต่อสู้ทางการเมืองกับน้องสะใภ้อย่างนางธัญพร มุ่งเจริญพร อดีตประธานสภา อบจ.สุรินทร์ ภรรยา ดร.ปกรณ์ มุ่งเจริญพร แบบแยกทางใครทางมัน เพราะความขัดแย้งทางทรัพย์สิน ที่ทั้ง 2 คน มีต่อกัน และกลุ่มผู้นำทางพรรคการเมืองใหญ่ในพื้นที่ให้ทั้ง 2 คนต่อสู้แข่งขันกันอย่างเต็มที่
ส่วนเบอร์ 3 นาง นัทธมน ศิริวัฒนวานิช อดีตรองนายก อบจ.สุรินทร์ ภรรยา นายก อบต.ที่อำเภอสังขะ จ.สุรินทร์ กระแสที่ออกมาในห้วงโค้งสุดท้ายในครั้งนี้ โดยการที่ นางนัทธมน ได้สวมเสื้อแดง ในนามพรรคเพื่อไทย ที่มีจ่าประสิทธิ์ หนุนหลัง ทีมงานคนเสื้อแดงและเจ้าของโรงสีแห่งหนึ่ง ที่อำเภอปราสาท จ.สุรินทร์ หนุนให้ลงสมัคร ทำเอาบรรดาคอการเมืองในพื้นที่ต่างสงสัยและต่างวิพากวิจารณ์กันไปต่างๆนานาว่าทำไมนาง นัทธมน ถึงได้ไปสังกัดพรรคเพื่อไทยและมีสมาชิกพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นว่า นางนัทธมน ไปสมัครสมาชิกพรรคเมื่อไหร่อย่างไรเพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็น นางนัทธมน ออกมาช่วยทางพรรคเลยและการลงรับสมัคร นายกอบจ.สุรินทร์ ในครั้งนี้ถึงกับได้บ่งบอกว่านาง นัทธมน ไม่ได้ลงในนามพรรคแต่อย่างใดและการที่นำภาพไปลงในการปิดป้ายโฆษณาตามพื้นที่ต่างๆทำให้ประชาชนคนในพื้นที่หลงเชื่อซึ่งมีกระแสภาพออกมาอย่างนี้ทำเอา นาง นัทธมน ถึงกับมีคะแนนที่เคยนำโด่งต้องมาลดลงอย่างเห็นได้ชัดก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้งเพียงไม่กี่วัน
ด้านเบอร์ 4 นายภัทรพล หงส์สูง อดีตข้าราชการเกษียณ ที่พี่น้องประชาชนคนคอการเมืองต่างก็ได้นำไปวิเคราะห์กันว่าถึงแม้ว่าจะเป็นม้านอกสายตาในกระแสชาวบ้านที่ค่อนยังไม่รู้จักกันเท่าไหร่และถือว่าเป็นนักการเมืองน่าจับตาดูว่าว่าตาอยู่จะได้อยู่ในสายตาพี่น้องประชาชนหรือไม่ แต่ก็ไม่ประมาทในการลงสู้ศึกในครั้งนี้เพราะชาวบ้านต่างก็จับตาดู
ด้าน เบอร์ 5 นายฉลอง สัตตรัตนามัย อาชีพทนายความ อดีตผู้สมัครท้องถิ่น และ ส.ส.มาหลายสมัยด้วยกัน ใช้สโลแกน ถ้าไม่สู้ก็ไม่เปลี่ยน ทำเอาวงการการเมืองในจังหวัดสุรินทร์ ถึงกับ สงสัยว่าจะสู้เขาแบบไหน ไปตามๆกันสาเหตุและประเด็นต่างๆที่ตัดสินใจลงรับสมัครในครั้งนี้ก็อยากให้สุรินทร์เปลี่ยนและการพัฒนาไปมากกว่านี้ซึ่งที่ผ่านมาก็คงยังอยู่เช่นเดิมมีแต่อยากจะเข้ามาเพื่อกอบโกยผลประโยชน์แต่ไม่เคยมองความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่รอคอยความหวังกับการพัฒนาจังหวัดสุรินทร์ ให้เจริญไปมากกว่านี้ ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าไม่ผ่านงบประมาณลงในพื้นที่นับเป็นร้อยๆล้านแต่การดำเนินงานตามโครงการก็ยังคงเช่นเดิมผลประโยชน์ก็ตกอยู่แต่กับกลุ่มคนเดิมๆแต่ทุกครั้งที่ลงสมัครก็ไม่ได้รับการคัดเลือกคราวคะแนนจะได้มากน้อยเพียงใด
ซึ่งนายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ รักษาราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้จัดกิจกรรม Big Day เชิญชวนรณรงค์ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง นายก อบจ.สุรินทร์ ในวันเสาร์ที่ 23พ.ย.2567ตั้งแต่เวลา 08.00น.-17.00น.ที่จะถึงนี้ มีข้าราชการ ประชาชน ร่วมงาน การเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์กรณีพ้นจากตำแหน่งกำหนดเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 23พ.ย.67เดินรณรงค์ให้ประชาชนมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ให้มากในการเลือกตั้ง นาย อบจ.สุรินทร์ ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 ที่จะถึงนี้