ตำรวจเค้นสอบเจ๊พัชนาน 5 ชม. เจ้าตัวยังปากแข็ง ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่งตัวฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านประกันตัว หวั่นยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน จ่อเรียก ฟิล์ม-รัฐภูมิให้ปากคำ ด้านบิ๊กก้องสั่งสอบปมบิ๊กบช.ก.ขวางดำเนินคดีดิไอคอน พบเชื่อมโยงเพื่อนอดีตสามีเจ๊พัช
ที่กองปราบปราม เมื่อวันที่ 17 พ.ย.67 พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) เปิดเผยว่า เมื่อวานพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนปากคำยาวกว่า 5 ชั่วโมง น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและไม่ให้การใดๆ กับพนักงานสอบสวน โดยอ้างว่าจะขอให้การเป็นเอกสารในภายหลัง หรับวันนี้ยังไม่มีกาาดำเนินการนำตัวน.ส.กฤษอนงค์มาสอบปากคำเพิ่มเติมแต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีประเด็นสอบอะไรเพิ่มเติม ซึ่งหลังจากนี้เตรียมจะนำตัวน.ส.กฤษอนงค์ส่งฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางในวันที่ 18 พ.ย. โดยพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและข่มขู่พยาน
สำหรับข้อหาที่แจ้งดำเนินคดีกับน.ส.กฤษอนงค์มี 2 ข้อหา ได้แก่ ข้อหากรรโชกทรัพย์ และข้อหาเป็นตัวกลางเรียกทรัพย์สินบน (เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจหรือได้จูงใจเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัดหรือสมาชิกสภาเทศบาลโดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมายหรือโดยอิทธิพลของตนให้กระทำการ หรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143) เนื่องจากพฤติการณ์ทางคดีที่เสนอขอหมายจับต่อศาล นอกจากจะพบว่ามีการข่มขู่เพื่อกรรโชกทรัพย์จากกลุ่มบอส The Icon Group จำนวน 750,000 บาท เมื่อกลางปีที่ผ่านมาแล้ว ยังพบถ้อยคำที่กล่าวอ้างว่าจะมีการจ่ายเงินให้กับหน่วยงานรัฐหน่วยงานหนึ่งด้วยในลักษณะของตัวกลาง เมื่อได้แจ้งข้อหาเกี่ยวกับการทุจริต จึงทำให้คดีดังกล่าวอยู่ในเขตอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
ในส่วนคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับน.ส.กฤษอนงค์รวมไปถึงคดีที่พัวพันกับฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ เกี่ยวเนื่องกับการเรียกรับผลประโยชน์ 20 ล้านบาท กับกลุ่มดิไอคอนกรุ๊ปนั้น มีรายงานข่าวว่า ในวันที่ 18 พ.ย.นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จะเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวน เพื่อหารือเกี่ยวกับคดีดังกล่าว แต่ยังไม่มีกำหนดเวลาที่แน่ชัด
อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้สั่งอาหารเมนูเด็ดข้าวคลุกกระเพราไก่ แถมแตงกวา ไม่มีไข่ดาว และน้ำเปล่า 1 ขวด มาให้น.ส.กฤษอนงค์หรือเจ๊พัช ผู้ต้องหาในคดีกรรโชกทรัพย์และเป็นตัวกลางเรียกทรัพย์สินบน กรณีตบทรัพย์บรรดาบอสดิไอคอน ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่ห้องควบคุมตัวชั้น 1 ตึกกองปราบ รับประทาน
ด้านสิบเวรห้องควบคุมตัวชั้น 1 ตึกกองปราบ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พนักงานสอบสวนนำตัวเจ๊พัชเข้าสอบปากคำถึง 5 ทุ่ม ก่อนนำตัวมาควบคุมที่ห้องควบคุมตัวชั้น 1 ตึกกองปราบ ซึ่งเจ๊พัชยังนอนหลับสบายตามปกติ เนื่องจากมีอาการอ่อนเพลียจากการเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน
ขณะที่มีรายงานข่าวว่า พนักงานสอบสวนเตรียมเรียกตัว ฟิล์ม- รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ดารานักแสดงชื่อดัง มาให้ปากคำเกี่ยวกับคดีดังกล่าวด้วย
มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ทีมสืบสวนของ บช.ก.ทำการตรวจสอบน.ส.กฤษอนงค์ สืบเนื่องจากเมื่อเดือนพ.ค.65 ขณะนั้นน.ส.กฤษอนงค์ หรือ "พัช กฤษอนงค์ต้านโกง" เป็นประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ รวมทั้งเปิดเพจ กฤษอนงค์ต้านโกง/กฤษอนงค์online/ศคอ.ศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ซึ่งให้ความรู้คำแนะนำรับเรื่องราวร้องทุกข์ประสานงานหน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่ายบูรณาการ เพราะมีชื่อเสียงในวงการแชร์มานาน รวมทั้งเป็นผู้ก่อตั้งองค์การต่อต้านแชร์ลูกโซ่อีกด้วย
นอกจากนี้ยังทราบอีกด้วยว่า เคยนำกลุ่มผู้เสียหายจำนวนหนึ่งเข้าพบตำรวจ บก.ปคบ.เพื่อร้องเรียนบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ทำให้มีกระแสข่าวว่าสาเหตุที่คดีไม่คืบหน้าเป็นเพราะมี "บิ๊กของ บชก." เข้ามาแทรกแซง หลังจากนั้นยังส่งตัวแทนเข้าไปร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
โดยมีการตรวจสอบพบว่า ผู้ที่ร้องเรียนกรณีดังกล่าวคือ นายชนะชล (สงวนนามสกุล) ปัจจุบันนอนรักษาอาการป่วยเส้นเลือดสมองอยู่ที่บ้านในจ.นครราชสีมา จากการสอบสวนทราบว่านายชนะชลเคยเป็นนักเรียนพลตำรวจ รุ่นเดียวกับอดีตสามีของเจ๊พัช ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้กำกับสอบสวนอยู่ใน บชภ.3 ส่วนนายชนะชลนั้นลาออกจากตำรวจตั้งแต่ครั้งยศสิบตำรวจโท
ต่อมานายชนะชลได้มทำงานให้เพื่อนนายตำรวจ ซึ่งขณะนั้นยังอยู่กินกับเจ๊พัชมีลูกด้วยกัน 2 คน โดยเจ๊พัชได้ตั้งชมรมต่อต้านแชร์ลูกโซ่ ส่วนนายชนะชลก็จะคอยรับงานเดินสายร้องเรียนบริษัทต่างๆ ที่พบมีพฤติกรรมเข้าข่าย ซึ่งการร้องเรียนต่างๆ นายชนะชลให้การว่าตนรับคำสั่งมาอย่างเดียว โดยไม่ทราบรายละเอียดใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนที่เหลือก็จะเป็นหน้าที่ของเจ๊พัช แต่ก็ไม่ทราบว่าเขาจะไปดำเนินการต่ออย่างไรบ้าง ภายหลังนายชนะชลล้มป่วยลงจากอาการเส้นเลือดในสมองแตก ไม่สามารถออกไปทำงานและไม่ได้ติดต่อกับเจ๊พัชเลย