เมื่อวันที่ 17 พ.ย..67 นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง จับหมาไปขังได้แล้ว!!! มีเนื้อหาดังนี้

 ถาม เห็นตัวแทนราชทัณฑ์ตอบคณะกรรมาธิการสภาว่า   รับตัวทักษิณเข้าเรือนจำแล้ว ก็ส่งตัวไป รพ.ตำรวจเลย   โดยอธิบายว่าทางพยาบาลได้โทรศัพท์ปรึกษากับหมอของเรือนจำแล้ว  ซึ่งทางกรรมาธิการตรวจสอบข้อมูลแล้วบอกว่า ทั้งหมดนี้ทักษิณใช้เวลาอยู่ในเรือนจำแค่ ๔ นาทีเท่านั้น

ตรงจุดนี้ผมข้องใจจริงๆครับ  อาจารย์ค้นกฎกระทรวงว่าด้วยการส่งตัวผู้ต้องขัง พ.ศ.๒๕๖๓ แล้ว  เขาเปิดให้ทำกันง่ายๆอย่างนี้หรือ

ตอบ    ไม่จริงครับ ข้อ ๒ ของกฎกระทรวงระบุชัดเจนว่า นักโทษต้องรับการตรวจทางการแพทย์ก่อน  

“ข้อ ๒ เมื่อผู้บัญชาการเรือนจำได้รับรายงานจากเจ้าพนักงานเรือนจำว่า ผู้ต้องขังคนใดป่วย ให้ส่งตัวผู้ต้องขังคนนั้นไปรับการตรวจในสถานพยาบาล ของเรือนจำ” 

มื่อไม่มีการตรวจเลยเช่นนี้ นี่จึงเป็นการละเว้นหน้าที่เป็นข้อแรก  ที่ ปปช.จะขอเวชระเบียน ขอใบส่งตัวอะไรของหมอเรือนจำนั่น   มันก็ไม่มีหรอกครับ  
ถาม    ตามกฎกระทรวงนี้ ตรวจแล้วต้องทำยังไงต่อครับ

ตอบ    กฎกระทรวงกำหนดว่า ถ้าตรวจแล้วฝ่ายการแพทย์ของเรือนจำรายงานว่า  รักษาในโรงพยาบาลเรือนจำจะไม่ทุเลาดีขึ้น  ให้ดำเนินการดังนี้ 

“(๑) กรณีผู้บัญชาการเรือนจำอนุญาต ให้เจ้าพนักงานเรือนจำพาผู้ต้องขังคนนั้นไปและกลับในวันเดียวกัน (๒) หากแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษามีความเห็นว่า สมควรรับตัวผู้ต้องขังคนนั้นไว้รักษา ให้เจ้าพนักงาน เรือนจำซึ่งพาผู้ต้องขังคนนั้นไปตรวจรักษาขอหลักฐานและความเห็นของแพทย์ผู้ทำาการตรวจรักษา ประกอบการจัดทำรายงานเสนอผู้บัญชาการเรือนจำพิจารณา ถ้าผู้บัญชาการเรือนจำเห็นด้วยกับ ความเห็นของแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา ให้มีคำสั่งอนุญาตให้รับตัวไว้รักษา”

ถาม    อ้าว..ตามพฤติการณ์จริงที่ปรากฏนั้น  เมื่อส่งทักษิณไปถึงโรงพยาบาลตำรวจแล้ว เขาก็รับตัวไว้ ยาวไป ๖ เดือนเลยนี่ครับ  โดยไม่มีการสื่อสารให้ทางราชทัณฑ์อนุญาตหรือไม่อนุญาตเลย จะอยู่จริงหรือไม่นานแค่ไหนก็ไม่มีใครยืนยันได้

ตอบ    นี่เป็นการละเว้นหน้าที่อย่างชัดเจนเป็นข้อที่ ๒   ดังนั้น ปปช.จะไปขอเวชระเบียน ใบส่งตัว ใบรับตัวพร้อมบันทึกการตรวจร่างกายอะไรก็ไม่มีหรอกครับ   ขั้นตอนอนุญาตของ ผบ.เรือนจำข้อนี้สำคัญมากขาดไม่ได้  กฎกระทรวงระบุชัดว่า
 
“กรณีผู้บัญชาการเรือนจำไม่เห็นด้วยกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา ให้เจ้าพนักงาน นำตัวผู้ต้องขังคนนั้นกลับเข้ารักษาพยาบาลภายในเรือนจำ”
ถาม    นักโทษที่ให้ไปรักษาตัวโรงพยาบาลนอกเรือนจำนี่  ต้องได้รับการปฏิบัติอย่างไรครับ  ผมเห็น รมต.ยุติธรรมบอกว่าต้องถือเสมือนอยู่ในเรือนจำด้วย

ตอบ    กฎกระทรวงระบุไว้รัดกุมครับว่า “เมื่อผู้บัญชาการเรือนจำอนุญาตให้ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้

- จัดเจ้าพนักงานเรือนจำอย่างน้อยจำนวนสองคนควบคุมผู้ต้องขังป่วยหนึ่งคนให้อยู่ภายใน เขตที่กำหนด

- ให้เจ้าพนักงานเรือนจำซึ่งมีหน้าที่ควบคุมผู้ต้องขังจดบันทึกข้อมูลผู้เข้าเยี่ยม และเวลา เข้าเยี่ยมโดยละเอียด และดูแลให้ผู้เข้าเยี่ยมปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำ
     
- ใช้สิทธิของผู้ต้องขังตามที่ทางราชการจัดให้และห้ามเข้าอยู่ในห้องพักพิเศษแยกจากผู้ป่วยทั่วไป

- รับประทานอาหารตามที่สถานที่รักษา ๓ จัดให้” 

ถาม    เห็นพลตำรวจเอกเสรี เตมียเวส  ท่านให้การต่อ ปปช.ว่า  เมื่อไปเยี่ยมทักษิณสองครั้งนั้น ท่านไม่เห็นมีพนักงานอยู่ประจำเลย  ห้องพักก็เป็นห้องพิเศษ ชั้น ๑๔ ทั้งชั้นเห็นเปิดอยู่ห้องเดียว อาหารการกินสมบูรณ์มีข้าวเหนียวมะม่วงเลี้ยงแขกด้วยนะครับ

ตอบ    นี่ก็เป็นการละเว้นหน้าที่เป็นข้อที่สามครับ  พวกเขาทำจน รพ.ตำรวจกลายเป็นโรงแรมไปเลย  มีนักโทษคนเดียวในประวัติศาสตร์ไทยเท่านั้นได้รับบริการอย่างนี้

ถาม    พอส่ง โรงพยาบาลตำรวจแล้ว  ในกฎกระทรวงไม่มีการตรวจสอบอะไรอีกเลยหรือครับ  อยู่นอกเรือนจำตั้ง ๖ เดือน แล้วก็พักโทษไปเลย  ง่ายๆอย่างนี้เลยหรือ

ตอบ    กฎหมายเขากำหนดการตรวจสอบทางบริหารไว้อย่างนี้ครับ

“- หากพักรักษาตัวเกินกว่าสามสิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง

- หากพักรักษาตัวเกินกว่าหกสิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้ปลัดกระทรวงทราบ

-หากพักรักษาตัวเกินกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้รัฐมนตรีทราบ”

ถาม    แล้วเขามีหนังสือและรายงานอย่างที่ว่านี้ไหมครับ

ตอบ    รัฐมนตรี บอกว่ามี  และได้เห็นผลตรวจ MRI ด้วย  ผมเข้าใจได้ว่าเป็นผลการตรวจก่อนผ่าซ่อมเอ็นหัวไหล่เท่านั้น ซึ่งอาการอย่างนี้ผู้สูงอายุเป็นกันทั่วไป  ผ่าวันเดียวก็กลับเรือนจำได้แล้ว  เอามาอ้างอยู่นอกเรือนจำเป็น ๖ เดือนไม่ได้หรอกครับ   รายงานและหลักฐานที่ว่านี้จะมีจริงไหม ถูกต้องหรือไม่   ทั้ง ปปช.และ กมธ ก็ยังไม่มีใครได้มาวิเคราะห์เลย

ถาม    แล้วที่คุณชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ท่านร้องให้ศาลไต่สวนว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา  ราชทัณฑ์ต้องขอให้ศาลออกคำสั่งทุเลาการลงโทษก่อน  จึงจะนอนโรงพยาบาลตำรวจได้  ถ้าไม่ผ่านศาลก็ต้องถือว่าไม่ถูกต้อง  ศาลต้องออกหมายจับทักษิณมาขังให้ครบ ๑ ปี นั้น  คำร้องนี้ถูกต้องให้ศาลรับวินิจฉัยได้ไหมครับ

ตอบ    มาตรานั้น ให้ศาลสั่งได้เมื่อญาติ หรือเรือนจำ ร้องขอ หรือเมื่อศาลเห็นเองว่า จำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก  ก็ให้ส่งไปบำบัดรักษานอกคุกได้    แต่กรณีทักษิณนี่ เขาอธิบายว่าเป็นการรักษาตามความจำเป็น ตามอำนาจของราชทัณฑ์  ศาลไม่เกี่ยว  จริงๆแล้วกฎกระทรวงน่าจะจำกัดเวลาไว้เลยว่า  ถ้าต้องรักษาเกิน ๓๐ วันให้ราชทัณฑ์ไปขอคำสั่งทุเลาการลงโทษ   ถ้ากำหนดอย่างนี้ศาลก็จะตรวจสอบได้ตามอำนาจในกฎหมาย  โอกาสติดคุกทิพย์ก็จะจำกัดอีกมาก
ถาม    แต่เฉพาะปัญหาว่าราชทัณฑ์ทำถูกต้องหรือไม่นี่   มันพอแล้วหรือยังครับที่ ปปช.จะมีมติตั้งข้อกล่าวหาผู้รับผิดชอบว่ากระทำผิดอาญา และมีมติส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจผู้บังคับบัญชา สั่งราชทัณฑ์ให้ร้องศาลให้ออกหมายขัง นำตัวนักโทษกลับเข้าคุกด้วย

ตอบ    เห็นเขาบอกให้หมาอยู่ส่วนหมา คนอยู่ส่วนคน  ผมว่าเมื่อปล่อยออกมาโดยไม่ชอบชัดเจนจะๆ และยังพองขนอหังการคับบ้านเมืองอยู่นอกกรงอย่างนี้  ก็ควรจับไปขังได้แล้วครับ