วันที่ 17 พ.ย. 2567 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์  อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ  ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี  เดินทางไปปราศรัยหาเสียงที่ จ.อุดรธานีว่า ท่านไปในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของนายศราวุธ  เพชรพนมพร  ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย แต่กลับมีการตั้งข้อสงสัยจากบรรดานักร้องพวกจ้องจับผิด ทั้งเรื่องครอบงำพรรค ครอบงำนายกฯ ครอบงำรัฐบาลแบบเล่นไม่เลิก มองหาแต่เรื่องจะร้องเรียนไม่จบไม่สิ้น ตนอยากฝากไปถึงคนเหล่านั้นว่าเวลาเป็นสิ่งมีค่า เลิกทำอะไรที่มันไร้สาระเสียทีเถอะ

ส่วนกรณีที่นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้ช่วยหาเสียง ของนายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี พรรคประชาชน ที่ออกมาอัดอดีตนายกทักษิณ กรณีปราศรัยช่วยหาเสียงที่อุดรธานี แบบสวนทุกประเด็นที่เห็นช่อง เรื่องนี้ในมุมของตนมองว่าท่านอดีตนายกทักษิณก็แค่เอานโยบายมานำเสนอ จะทำได้จริงหรือไม่ชาวอุดรฯ ก็คงต้องให้ชาวอุดรฯ เป็นคนตัดสิน ท่านเป็นนายกฯ มา 2 สมัย พูดได้ทำจริง เรื่องนี้ประชาชนคงทราบดี การปราศรัยช่วยหาเสียงจะด้วยสีสันหรืออะไรก็ตามแต่มันก็คงต้องมีกระทบกระทั่งคู่แข่งบ้างก็เหมือนนักกีฬา

"แต่นายชัยธวัช กลับออกมาอัดท่านเรื่อง ไม่เลี้ยงหลานแล้วเหรอ ลามไปตู้ห่าว โยงไปชั้น 14 ผมว่าคุณชัยธวัช หลังโดนตัดสิทธินี้เปลี่ยนไปมาก นายชัยธวัช ท่านไม่ตอบโต้เรื่องนโยบาย แต่กลับชกใต้เข็มขัด ผมว่ามันไม่แฟร์"

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่นายชัยธวัช  พูดท่านนายกฯทักษิณท่านคงไม่ออกมาโต้กลับ แต่ตนอยากให้นายชัยธวัช  คิดถึงสโลแกนพรรคเดิมของท่านที่โดนยุบไปที่บอกว่าจะทำการเมืองใหม่ อยากให้สู้กันด้วยนโยบายจะดีกว่า ส่วนนายพิธา  ลิ้มเจริญรัตน์  อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ฟาดทุกดอก ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับที่นายชัยธวัช  ทำเหมือนแผ่นเสียงตกร่องทั้งคู่ พรรคของท่านยังไม่มีโอกาสได้เข้าบริหารประเทศ สิ่งที่ท่านคิดใช่ว่าจะทำได้ทุกเรื่อง การทำงานของรัฐบาลก็อย่างที่เราเห็นกันอยู่ พอจะเริ่มทำพอจะตั้งหลักได้ ก็ต้องมาเริ่มกันใหม่ เพราะเรื่องอะไรเราๆ ก็คงจะรู้

" ผมก็อยากฝากให้คิดว่าถ้าท่านยังมัวมาย้อนอดีต คาดการณ์อนาคต แล้วประชาชนจะจับต้องอะไรได้ สู้กันด้วยนโยบายเถอะครับ อย่าไปพูดเรื่องเก่าๆ เลย บ้านเมืองกำลังจะเดินไปข้างหน้า ถ้ามัวแต่ถอยหลังก็ลงคลองกันพอดี" นายพร้อมพงศ์ กล่าว