วันที่ 16 พ.ย.67 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" ระบุว่า...
ผมเป็นคนกำกับเวทีปราศรัยที่อุดร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ยืนอยู่ใกล้ๆจุดที่คุณทักษิณให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวถามว่า ในแต่ละเหตุการณ์มีบริบทเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ระหว่างการรัฐประหารทั้ง 2 ครั้ง มาจนถึงพรรคการเมืองถูกยุบ เพราะมีนโยบายแก้ 112
คุณทักษิณจึงตอบว่าเคยคุยกับคุณธนาธร โดยเล่าชะตากรรมของตัวเอง ให้ความเห็นเรื่องโครงสร้าง และยังอธิบายด้วยว่าไม่ได้บอกว่าคุณธนาธรหรือพรรคไม่จงรักภักดี
ไม่มีการพาดพิงเรื่อง 112 กับพรรคก้าวไกลในการตั้งรัฐบาลเลย
หากคุณทักษิณพูดเรื่องที่คุยกันคลุมเครือหลายครั้ง คุณธนาธรก็มีสิทธิ์จะเล่าโดยละเอียดครบถ้วน ว่าตอนบินไปเจอได้คุยอะไรกัน
หลังจากโหวตคุณพิธาครั้งแรกไม่ผ่าน ผมเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า พรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่ได้ อย่างน้อยก็ตลอด 4 ปีของอายุสภานี้ และเชื่อด้วยว่าตั้งแต่ยุบอนาคตใหม่ ตั้งรัฐบาลไม่ได้ ยุบก้าวไกล และอาจเลยไปถึงชะตากรรมของ 44 ส.ส.ที่อยู่ในชั้นปปช. เป็นเรื่องเดียวกัน ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น ผมเคารพวิจารณญาณของพรรคประชาชน
ถ้าคุณทักษิณเป็นคนที่น่าจะเข้าใจปัญหาโครงสร้างดีที่สุด เราก็น่าจะเข้าใจด้วยว่าในสภาพปัญหาที่ซับซ้อน คนหรือพรรคที่โดนมาอย่างหนักเกือบ 20 ปี อาจเลือกวิธีเผชิญปัญหาแบบหนึ่ง ซึ่งอาจจะเหมือนหรือต่างกับพรรคการเมืองอื่น แต่เมื่อเป็นการตัดสินใจทางการเมืองก็ต้องพร้อมน้อมรับการตัดสินใจของประชาชน
การทำงานความคิดกับผู้คนในสังคมย่อมมีหลากหลายรูปแบบและวิธีการ หากต้องเป็นไปตามแนวทางของพรรคใดพรรคหนึ่งเพียงอย่างเดียว ก็ยากที่จะเรียกว่าวิถีทางประชาธิปไตย
สิ่งที่พรรคประชาชนพบ ไม่มีอะไรที่พรรคเพื่อไทยไม่เคยเจอ ในระหว่างที่สังคมยังไม่สุกงอมพร้อมพอที่จะเปิดใจพูดคุยเรื่องโครงสร้าง สิ่งที่เพื่อไทยพยายามทำคือ ขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้าทีละก้าว
เรื่องสิทธิ เสรีภาพ และความเท่าเทียม เราได้พรบ.สมรสเท่าเทียม และครม.เพิ่งเห็นชอบการเร่งรัดหลักเกณฑ์การให้สัญชาติชนกลุ่มน้อยที่อาศัยในประเทศไทยมายาวนาน แม้อาจเป็นก้าวไม่ใหญ่นัก แต่ก็เป็นก้าวสำคัญและจะเป็นฐานยืนสำหรับก้าวต่อๆไป
ผมเข้าใจและเห็นใจชะตากรรมของพรรคประชาชน เอาใจช่วยอย่าให้พบความโหดร้ายแบบที่ผมเคยผ่าน ไม่ประสงค์สร้างพื้นที่วิวาทะ เพียงแต่เป็นผู้ช่วยหาเสียงไปกับคุณทักษิณ 2 คน อยู่ในเหตุการณ์จึงเล่าสู่กันฟัง