วันที่ 15 พ.ย.2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.)   นายสนธิญา สวัสดี  อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางเข้ายื่นหนังสือ พร้อมหลักฐานภาพข่าวการหาเสียงนายก อบจ. ที่ จ.อุดรธานี ให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตรวจสอบกรณีอดีตนายกฯ  ทักษิณ ชินวัตร ละเมิดสิทธิในประเด็นที่ว่านักร้องเป็นหมา หมาอยู่ส่วนหมา คนอยู่ส่วนคน อย่าสนใจหมาเห่า ทั้งๆที่เป็นสิทธิตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ  ในฐานะนักร้องเรียน  นักเคลื่อนไหว  ทางด้านการเมือง ที่ทำมาแล้วกว่า 17 ปี

นายสนธิญา   ระบุว่า มายื่นหนังสือให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตรวจสอบโดยเฉพาะคำว่านักร้อง หรือผู้ร้องเรียนเปรียบเสมือนหมา  หมาอยู่ส่วนหมา คนอยู่ส่วนคน อย่าไปให้สำคัญกับผู้ร้องเรียนตนเองไม่เชื่อว่า  จะเป็นคำพูดที่ออกมาจากอดีตนายกฯ  2 สมัย  และผู้ที่มีวัยวุฒิสูง  การพูดของท่านที่เกี่ยวกับผู้ร้องเรียน ตนเข้าใจว่าท่านกำลังเข้าใจผิด   ในเรื่องของระบอบประชาธิปไตย มีการแบ่งหน้าที่และมีการตรวจสอบกันได้ตามสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ  พุทธศักราช 2560 มาตรา 4   มาตรา 41(1)(2)   มาตรา 50 ตรวจสอบรัฐราชการเพื่อประโยชน์อันสูงสุดของประเทศและประชาชน ซึ่งตนเองก็เป็นคนหนึ่ง ที่มีสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ

การตรวจสอบรัฐบาลหรือการตรวจสอบการทำงาน ของรัฐบาล  จึงเป็นหน้าที่ของประชาชนคนไทยทุกคน  ซึ่งหากการตรวจสอบหรือการร้องเรียนทำให้เกิดความเสียหายรัฐบาลก็สามารถดำเนินการเอาผิดได้ เช่นกัน  ซึ่งในส่วนนี้ตนเองกำลังให้ทนายความดูในรายละเอียดว่ามีการ ดูหมิ่น หมิ่นประมาทหรือไม่อย่างไร ซึ่งตนเองก็ถือว่าเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ร้องเรียนรัฐบาลนี้อยู่บ่อยครั้ง

“ผมเองเคารพในตัวอดีตนายกฯ ดร.ทักษิณ ชินวัตร  และเป็นพ่อของนายกฯคนปัจจุบัน   สิ่งที่ผ่านมาท่านเป็นผู้กระทำผิดในคดีอาญา และกำลังถูกสอบเป็นผู้กระทำผิดในคดี 112  และหลังจากกลับมาก็จำคุก   แต่ไปพักรักษาตัวที่ชั้น14 โรงพยาบาลตำรวจ   จนครบวาระตามที่คำพิพากษาของศาล   ซึ่งยังมีข้อสงสัยของสังคมตลอดมาจนวันนี้ แต่กลับมาใช้คำพูดนี้ในการดูหมิ่นเหยียดหยามบุคคลอื่นๆที่ทำตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ อย่างไรก็ตามหากเข้าข่ายการหมิ่นประมาทก็จะดำเนินการในขั้นตอนของกฎหมายต่อไป”  นายสนธิญา  กล่าว