เมื่อเวลา 13.55 น. วันที่ 15 พ.ย. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะอดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นปราศรัยบนเวทีหาเสียงนายกอบจ. อุดรธานี ว่า การเลือกตั้งสส.ครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะได้สส. 200 เสียง ว่า เข้าใจว่าเป็นการให้กำลังใจทั้งผู้สมัครนายกอบจ.อุดรธานี และผู้สมัคร สส.ในอนาคต เพราะหลังจากที่พรรคเพื่อไทยมีนโยบายออกไปหลายอย่าง ท่านเชื่อว่าจะส่งผลให้ได้รับความนิยมจากพี่น้องประชาชน จนทำให้ได้รับการเลือกตั้งสส.ถึง 200 คน

เมื่อถามว่า 200 เสียงที่ว่าจะมาจากพรรค ประชาชนหรือพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้ นายประเสริฐ กล่าวว่า ถ้าตอบชัดๆก็ต้องมาจากพี่น้องประชาชนเพราะเป็นคนเลือก

ผู้สื่อข่าวถามย้อนถึงการจัดตั้งรัฐบาลในปี 2566 ที่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถจับมือกับพรรคก้าวไกลได้ เนื่องจากมีเงื่อนไขเรื่องมาตรา 112 ตามที่นายทักษิณ มีวิวาทะกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนไม่เคยทราบว่าทั้งคู่มีวิวาทะกัน และสองท่านนี้ไม่เคยมายุ่งเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล พร้อมระบุว่า การจัดตั้งรัฐบาลห้วงเวลานั้นตนในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าพรรคก็ได้ไปเจรจากับหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาล รวมถึงพรรคก้าวไกล ในขณะนั้นซึ่งไม่ใช่นายธนาธร แต่ยอมรับว่ามีเรื่องมาตรา 112 อยู่ด้วย รวมถึงหลายเรื่อง เช่น เรื่องการทำงานที่มีบางเรื่องคล้ายกัน และบางเรื่องก็มีความแตกต่างกัน

ซึ่งหากย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้น พรรคเพื่อไทยก็เปิดโอกาสให้พรรคที่ชนะการเลือกตั้งได้โหวตเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีก่อน แต่เมื่อไม่สามารถโหวตได้ และไม่สามารถรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่ง ก็มีการนำเสนอให้พรรคลำดับที่สองคือพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นกลไกตามรัฐธรรมนูญ และถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ สมัยก่อนเราเคยชนะที่ 1 เราก็ตั้งรัฐบาลได้ ตนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาทางการเมือง