วันที่ 14 พ.ย.67 เวลา 10.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า  พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้มฉ้อโกงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี และ หารือเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางสืบหาพยานหลักฐานรวมแนวทางสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆทางคดีหลังจากนี้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันในวันนี้ทางพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ยังได้เชิญตัว น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวของ นางปทิตตา ภรรยาของนายษิทรา หรือ ทนายตั้ม มาเข้าพบกองบังคับการปราบปราม เพื่อสอบปากคำในฐานะพยานในคดีที่นายษิทรา หลอกเรียกเก็บเงินค่าเขียนแบบโรงแรมจาก น.ส.จตุพร หรือ เจ๊อ้อย เกินกว่าราคาความเป็นจริง

หลังแนวทางสืบสวนทราบว่า ภายหลัง นายษิทรา ฉ้อโกงเงินส่วนต่างค่าเขียนแบบก่อสร้างโรงแรม จำนวน 5.5 ล้านบาท จากเจ๊อ้อย มาแล้วนั้น ได้แบ่งเงินก้อนดังกล่าวออกมาจำนวน 1 ล้านบาท แล้วให้คนขับรถไปส่งมอบให้กับ น.ส.ปิณฑิรา จึงเป็นเหตุให้ทางพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เชิญตัวมาสอบปากคำในวันนี้เพื่อสักถามข้อเท็จจริงให้หายเคลือบแคลงข้อสงสัยว่า ก่อนหน้าที่ น.ส.ปิณฑิรา จะรับเงิน 1 ล้านบาท จากทนายตั้ม ทราบหรือไม่ว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการฉ้อโกงเจ๊อ้อย  

ทั้งนี้คำให้การของ น.ส.ปิณฑิรา นี้เอง จะถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาว่าการกระทำของเจ้าตัวเข้าข่ายความผิดฐานร่วมฟอกเงินหรือไม่ อย่างไรก็ตามนับจากเวลาที่ น.ส.ปิณฑิรา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เมื่อช่วงเวลา 10.30 น. ที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้เวลาล่วงเลยผ่านมา เกือบ 7 ชั่วโมง แต่การสอบปากคำยังคงไม่แล้วเสร็จ