เมื่อเวลา 16.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 15 ชั่วโมง ) วันที่ 13 พ.ย. ตามวันสหรัฐอเมริกา  โดยตรงกับวันที่ 14 พ.ย.ของประเทศไทย  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์ถึงการเยือนนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ว่า  ภาพรวมภารกิจ เป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ โดยได้เดินทางไปที่วัดไทยในนครลอสแอนเจลิสและได้พบปะกับชุมชนไทย ซึ่งทราบกันดีว่า นอกประเทศไทยนครลอสแอนเจลิส ถือเป็นชุมชนที่มีจำนวนคนไทยเยอะที่สุด จำนวนกว่า 3 แสนคน  พบปะพูดคุยกับพี่น้องคนไทยที่มาร่วมให้กำลังใจ  ซึ่งได้รับกำลังใจจากคนไทยที่อยู่ที่นั่นและได้มีโอกาสถ่ายรูปร่วมกัน อีกทั้งยังได้ไปกราบพระ และเดินตลาดข้างๆ ที่เป็นตลาดขายอาหารและขนมไทยต่างๆ จึงได้แวะชิมชาไทย ข้าวเหนียวมะม่วง และขนมเบื้อง ซึ่งขายดีและเป็นที่นิยมมากๆ โดยงานจัดมา 3 ปีแล้ว เป็นธุรกิจที่คนไทยทำเอง แต่มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติที่เข้ามาเที่ยว ขณะเดียวกัน ยังได้มีโอกาสดูการแสดงของนักเรียนโรงเรียนวัดไทยนครลอสแอนเจลิสทั้งการแสดงมวยไทย รำไทย และดนตรีไทย จึงรู้สึกอบอุ่บเหมือนอยู่บ้านเราทุกครั้ง เมื่อเจอคนไทยในต่างแดน

 

นายกฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้พบกับเอกอัครราชทูตกงสุลใหญ่และทีมไทยแลนด์ในภูมิภาคอเมริกา โดยได้มอบนโยบายรัฐบาลรวมถึงรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากทีมไทยแลนด์ ซึ่งได้เน้นย้ำกับคณะเอกอัครราชทูตให้มีการทูตเชิงรุกมากยิ่งขึ้น ซึ่งทีมไทยแลนด์เปรียบเสมือน ทัพหน้าของประเทศไทย  จึงอยากให้ประสานผู้แทนการค้า เพื่อมองหาการลงทุนในต่างประเทศมาลงทุนในไทย และยังได้เล่าให้ฟังว่าประเทศไทยโฟกัสอะไรบ้าง และจะเดินหน้าการทูตอย่างไรต่อไป   ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเน้นในเรื่องของเอไอ และเทคโนโลยีต่างๆ ขณะนี้ก็ดึงนักลงทุนมาได้พอสมควรแล้ว จึงมีการวางแผนไปถึงปีหน้าว่าจะมีโอกาสดีๆเข้ามาให้ประเทศไทยอีกหรือไม่

 

นายกฯ กล่าวอีกว่า  รวมถึงพูดคุยได้พูดคุยกับเอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่และทีมไทยแลนด์ในภูมิภาคอเมริกา ถึงการสนับสนุนและพัฒนาสตาร์ทอัพด้วย เพราะเป็นที่ทราบกันว่าคนไทยมีศักยภาพ จึงอยากสร้างโอกาสให้คนไทยกลับมาทำงาน และช่วยกันพัฒนาประเทศไทยเยอะๆ เพราะเสียดายศักยภาพคนไทย ตนจึงได้บอกกับเอกอัครราชทูตให้ช่วยกันสงเสริมในเรื่องนี้ ขณะที่ เรื่องของซอฟต์พาวเวอร์ได้เน้นย้ำให้ช่วยกันส่งเสริมในทุกมิติ เพราะจะเห็นว่าอาหารต่างชาติชอบมาก กลายเป็นว่าทำให้ต่างชาติทานเผ็ดได้มากขึ้น เนื่องจากอาหารไทยแซ่บ จึงถือเป็นเรื่องดี  ทั้งนี้ ยังได้กำชับเอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่และทีมไทยแลนด์ในภูมิภาคอเมริกา โดยขอให้ดูแลคนไทยในต่างประเทศให้ดี มีอะไรก็ให้สนับสนุน ฉะนั้นหากคนไทยต้องการอะไร ก็ขอให้ติดต่อสถานทูตฯมาได้ทันที