วันที่ 14 พ.ย.67 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาลลอยกระทงปีนี้ว่า ได้ตรวจความแข็งแรงของโป๊ะต่าง ๆ แล้ว ซึ่งจำกัดจำนวนคนขึ้นโป๊ะตามน้ำหนักที่รับได้ รวมถึงการดูแลในจุดต่าง ๆ เช่น เรื่องเด็กพลัดหลง เรื่องคนเข้าออกงาน ความหนาแน่นของผู้ร่วมงาน เรื่องการลักขโมย ซึ่งประสานงานร่วมกับตำรวจหลายท้องที่เข้ามาดูแล นอกจากนี้ เรื่องสำคัญคือห้ามจุดพลุตามสถานที่ต่าง ๆ เพราะผิดกฎหมาย จะจุดได้เฉพาะพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

 

ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า วันที่ 15 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันลอยกระทง พบฝุ่น PM2.5 หนักขึ้น จาก 3 ปัจจัย คือ ควันจากรถยนต์ ควันจากการเผา และสภาพอากาศปิด โดยเฉพาะช่วงนี้สภาพอากาศปิด การถ่ายเทอากาศน้อย เป็นสาเหตุทำให้ค่าฝุ่นสูงขึ้น จึงขอเชิญชวนให้ใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวในช่วงนี้ ส่วนกลุ่มเปราะบาง หากต้องร่วมงานลอยกระทงหรือค้าขายภายในงานเป็นเวลานาน อาจสวมหน้ากากอนามัยป้องกันไว้

 

ด้านนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงแนวทางการลดกระทงโฟมให้เป็นศูนย์ในช่วงเทศกาลลอยกระทงปีนี้ว่า โดยเฉลี่ยพบกระทงโฟมปีละ 3% หรือ 20,000 ใบ จากกระทงทั้งหมดเกือบ 700,000 ใบ กทม.พยายามประชาสัมพันธ์ให้ทุกเขตร่วมกันรณรงค์ ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่งดใช้กระทงโฟมและกระทงที่ทำจากขนมปัง เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้ขายให้งดขายกระทงโฟมและกระทงขนมปังด้วย