วันที่ 13 พ.ย.2567 เวลา 11.30 น. ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่1 พร้อมคณะ ลงเดินตรวจความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบสภาฯ รวมทั้งห้องอาหารฝั่งสภาฯบริเวณชั้น1 และชั้นเครื่องยอดชั้น11ของอาคารรัฐสภา

จากนั้นนายวันมูหะมัดนอร์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ได้พาคณะที่ปรึกษา เลขาธิการสภาฯ รองเลขาธิการสภาฯ มาสำรวจพื้นที่ทั้งหมด เพื่อที่จะปรับปรุงให้ใช้การได้ดีเมื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯมา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีหลายห้องแต่ใช้ไม่เต็มที่เพราะยังไม่มีการปรับปรุง ทั้งเก้าอี้ แสง เสียง ซึ่งการเปิดสมัยประชุมหน้าจะทยอยเปิดให้หมด ให้คุ้มค่า เพราะประชาชน และนักศึกษาก็มาใช้เยอะ โดยเฉพาะคณะกรรมาธิการมีการจัดประชุมบ่อย แต่การตั้งงบประมาณ 68 ก็ได้บางส่วน แต่ที่มาดูวันนี้ก็เตรียมที่จะตั้งงบประมาณในปี 69 ส่วนการดูแลระบบการรักษาความปลอดภัยทั้งระบบอุบัติเหตุ อุบัติภัย เรื่องไฟ ก็มีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งรถที่เข้ามาสามารถตรวจสอบได้ว่ารถคันไหน ทะเบียนอะไรเข้ามาเมื่อไหร่ สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ถึง 6 เดือน เพราะฉะนั้นระบบความปลอดภัยถือว่าอยู่ในระดับที่ดี และห้องต่างๆที่ใช้ได้บางส่วน แต่ที่ใช้ไม่ได้จะเปิดใช้ให้หมด

เมื่อถามว่าได้ไปตรวจสอบระบบการใช้น้ำในชั้น B2 ที่เอ่อล้นออกมา ภายหลังนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตสส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ไปตรวจสอบพบเมื่อวันที่12พ.ย.ที่ผ่านมา หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าอยู่ในขั้นตอนการปรับปรุงแล้ว แต่เครื่องปั๊มน้ำเนื่องจากใช้มานาน ใช้ได้ไม่ดี กำลังสั่งซื้อเปลี่ยนใหม่ เป็นเรื่องของเครื่อง แต่ระบบยังใช้ได้ เครื่องดูดน้ำบางช่วงเวลามันเสีย เพราะเครื่องมันไม่ดีแล้วต้องเปลี่ยนใหม่ ส่วนรอยรั่วทั้งหลายกำลังจะปรับปรุง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่

เมื่อถามว่าส่วนที่เสียแล้วสามารถซ่อมแซมได้หรือไม่ เพราะอาคารรัฐสภารับมอบมาแล้ว นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่าก็มี 2 อย่างคืออยู่ในระหว่างการประกันเราเคลมปรับปรุงเปลี่ยนได้ แต่บางอย่างเป็นเรื่องของการชำรุดจากการใช้เช่น หลอดไฟ สายไฟ ประตู หรือกลอนห้องน้ำ  เราต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นการใช้แล้วเสีย หรือเสื่อม แต่ถ้าระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบไฟฟ้า หรือพื้น อยู่ในระบบประกันรับประกัน 2 ปี

“ผมได้กำชับว่าช่วงปิดสมัยประชุมต้องสำรวจให้หมด อันไหนที่เสียง่ายต้องเปลี่ยนเอาของดีที่มันเสียยาก เพราะสภาฯต้องรับบริการมาก ทั้งสมาชิกรัฐสภา เจ้าหน้าที่ประมาณ 3 พันคน เพราะฉะนั้นต้องใช้ของที่มันคงทนถาวร ราคาสูงหน่อย แต่ดีกว่า ใช้แล้วไม่มีวันเสีย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว และกำลังจะเร่งรัดทำฐานพระรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯที่บริเวณด้านหน้าให้เสร็จในงบประมาณปี 68 รวมทั้งเรื่องของพิพิธภัณฑ์ของรัฐสภา ได้ตั้งงบประมาณไปแล้ว แต่แบบไม่เรียบร้อย คิดว่าในปี 69 คงจะทำได้หมด”ประธานสภาฯ กล่าว