เมื่อวันที่ 12 พ.ย.67 เวลา 19.15 น. พ.ต.ต.ไพฑูรย์ มีผล สารวัตรสอบสวน สภ. แก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้รับแจ้งจากนายณรงค์ อ้นจันทร์ กำนันตำบลสองคอน ว่ามีรถโม่ปูนเข้าชนร้านค้าได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นได้ทำการประสานงานหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูจ.สระบุรี เข้าทำการช่วยเหลือ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เป็นสามแยกไฟแดง ถนนสองคอน -พระบาทน้อย ตั้งอยู่พื้นที่ ม 8 ต.สองคอน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พบรถโม่ปูน ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียนสระบุรี (ซึ่งเป็นรถเปล่า) ทราบชื่อคนขับ นายวินัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี อยู่ ม.8 อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี อยู่ในสภาพ พุ่งเข้าเสียบคากลางตัวบ้านซึ่งตั้งร้านค้า (ซึ่งภาพในร้านค้าเป็นตู้กระจก ) และยังเป็นบ้านซึ่งตั้งเป็นที่ทำการกำนันตำบลสองคอน อยู่ริมถนนติดสามแยกไฟแดง ม. 8 ต.สองคอน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จนตัวบ้านและร้านค้า ซึ่งมีเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้กระจกมีกระจกแตกเกลื่อนบริเวณที่เกิดเหตุ และของที่นำมาขายได้รับความเสียหาย มีผู้รับบาดเจ็บที่บริเวณขาขวาคือนางลำไพร ซึ่งเป็นเจ้าของร้านและกำลังขายของให้กับลูกค้าอยู่ในร้าน นอกจากนี้ ยังมีรถจักรยานยนต์ ของลูกค้าที่มาจอดซื้อของแล้วจอดไว้บริเวณหน้าร้าน เสียหาย 3 คัน และใกล้ ๆ กันยังพบรถเก่ง นิสสัน สีแดง จอดอยู่ได้รับความเสียหายจากการที่รถโม่ปูนผ่าไฟแดงมาชนท้ายอีก 1 คัน
จากการสอบถามนางลำไพร เจ้าของร้าน กล่าวว่า ในช่วงเกิดเหตุตนเองกำลังนั่งเก็บเงินลูกค้าที่มาซื้อของ ขณะนั้นได้ยินเสียงรถโม่ปูนคันดังกล่าวเสียงดังที่วิ่งมาจากบริเวณสามแยกไฟแดง ตนเองเลยลุกเดินออกมาดูบริเวณหน้าร้านซึ่งเป็นประตูกระจก เห็นวิ่งพุ่งเข้าหาร้านแบบไม่เบรกเลย ตนเองนึกว่ารถดังกล่าว จะหักหลบก็ปรากฏว่าก็ไม่หักหลบ ก็วิ่งมาชนร้านตนเองเสียงดัง ตู้กระจกซึ่งบรรจุเหล้าแตกกระจายหมดเลย ตนเองตกใจก็ไม่รู้ว่าโดนอะไรมีเลือดออก และมีแผลบาดเจ็บบริเวณขาขวา
สอบถามหญิงคนที่ขับรถเก่งคันสีแดงซึ่งเป็นผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองขับรถมากับน้องสาว แล้วเห็นรถโม่ปูนคันแรกจอดติดไฟแดงอยู่ แล้วมีรถโม่ปูนอีกคนตามหลังมา แต่ปรากฏว่าไม่จอดได้พุ่งชนท้ายรถโม่ปูนคันแรก ได้รับความเสียหายด้านขวานิดหน่อย แต่รถเก่งของตนเองนั้นเป็นทางตรงไฟเขียวจึงได้ขับไป ปรากว่ารถโม่ปูนคันที่2 วิ่งฝ่าไฟแดงมาตนเองจึงเบนเข้าริมถนนแต่ไม่พ้นชนเข้าทางด้านขวาประตูรถเก่ง พร้อมกันชนท้ายได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
สอบถาม นายวินัย คนขับรถโม่ปูนคันก่อเหตุ เล่าว่า ตนเอง ขับรถโม่ปูนเปล่ามากัน 2 คัน เพื่อจะกลับแคมป์คนงานที่ ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี จนมาถึงที่สามแยกไฟแดงที่เกิดเหตุ ตนเองเกิดวูบ ไม่รู้สึกตัว จนชนเข้ารถโม่ปูนคันที่ 1 ซึ่งจอดติดไฟแดงอยู่ชนท้าย และตนเองยังได้ผ่าไฟแดง จนเข้ามาชนร้านค้าอย่างที่เห็น มารู้สึกตัวก็ชนไปแล้ว ตนเองน่าจะเกิดจาการวูบเนื่องจากตนเองเคยเป็นโรคความดัน ปัจจุบันก็ยังเป็นและยังกินยาอยู่น่าจะเกิดจากอาการดังกล่าว
ทางด้าน พ.ต.ต.ไพฑูรย์ มีผล สารวัตรสอบสวน สภ. แก่งคอย ได้นำตัวนายวินัย หวานจริง คนขับรถโม่ปูนคันก่อเหตุ ไปสอบปากคำที่ สภ.แก่งคอย และตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร่างกาย พร้อมวัดระดับแอลกอฮอล์ในร่างกาย แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา และตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินคดีทางด้านกฏหมายต่อไป