​ศปช.ไม่ประมาท แม้ พายุโซนร้อน “หยินซิ่ง” และ“โทราจี” จะไม่ส่งผลโดยตรงถึงไทย ระบุนายกรัฐมนตรีสั่งการ เตรียมพร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติ

วันนี้ (12 พฤศจิกายน 2567) เวลา 15.00 น. นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. รับทราบจากกรมอุตุนิยมวิทยา ว่าในวันนี้ (12 พ.ย. 67) พายุโซนร้อน “หยินซิ่ง” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนได้เคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางแล้วคาดว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ ส่วนพายุโซนร้อน “โทราจี” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน จะเคลื่อนเข้าใกล้เกาะไหหลำ ประเทศจีนและประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 14 - 15 พ.ย. 2567  และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับโดยพายุทั้งสองนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย

 

“แม้พายุทั้งสองลูกจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรงแต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นทำให้อากาศเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและอีสานที่อากาศจะเย็นลงกับมีหมอกในตอนเช้ารัฐบาลจมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนโดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการดูแลประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่ฟื้นฟูจากเหตุอุทกภัยก่อนหน้านี้พร้อมขอให้ประชาชนในพื้นที่ดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย” นางสาวศศิกานต์ กล่าว

 

พร้อมกันนี้รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียัง กล่าวอีกว่า กรมทรัพยากรธรณีได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 14 พ.ย.2567 เฝ้าระวังเหตุ ดินกล่ม-น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ของสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาสและปัตตานี

 

“นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานให้เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์สาธารณภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แม้พายุโซนร้อนทั้งสองลูก (หยินซิ่ง,โทราจี) จะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยโดยตรงแต่รัฐบาลก็ไม่ประมาทได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมของบุคลากรและเครื่องมือให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา ซึ่งรัฐบาลเองขอขอบคุณความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เสียสละเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนคนไทย” นางสาวศศิกานต์ กล่าว