เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 12 พ.ย. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ประจำปี 2568 และ 2569 โดยให้วันจันทร์ที่ 2 มิ.ย. 2568 เป็นวันหยุดราชการเพิ่ม เพื่อเชื่อมต่อวันหยุดราชการ ตั้งแต่วันที่ 31พ.ค. ถึง วันที่ 3 มิ.ย. รวมเป็นวันหยุดติดต่อกัน 4 วัน เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระบรมราชินี และให้วันที่ 11 ส.ค. 2568 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้มีวันหยุดต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. ถึงวันที่ 12 ส.ค. รวม 4 วันเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 

 

นอกจากนี้มีมติให้ วันที่ 2 ม.ค. 2569 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้มีวันหยุดเชื่อมกันตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 2568 ถึงวันที่ 4 ม.ค. 2569  รวมเป็นวันหยุดช่วงเทศกาลปีใหม่ 5 วัน

 

จากนั้นเวลา 13.00 น. น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุม ครม.ว่า จากกรณีที่ครม.เห็นชอบกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ปี 2568 และ ปี 2569  ซึ่งการกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ประจำปี 2568 และ ปี 2569 โดยที่การกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษในแต่ละปี เพื่อให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันหลายวัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการเดินทาง ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ รวมทั้งเพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายที่จะกำหนดให้ปี 2568 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬาของประเทศไทย (Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025) 

 

น.ส.ศศิกานต์  กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทำให้ภาพรวม วันหยุดราชการปี 2568 มีจำนวน 21 วัน และในกรณีที่หน่วยงานใดมีภารกิจ ในการให้บริการประชาชนหรือมีความจำเป็นมีราชการสำคัญในวันหยุดราชการดังกล่าว หากมีการยกเลิกจะทำให้เกิดความเสียหาย และกระทบต่อการให้บริการประชาชน สามารถให้หัวหน้าหน่วยงานนั้นๆ พิจารณาดำเนินการตามที่เห็นสมควร โดยมีให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ และกระทบต่อการให้บริการประชาชน  สำหรับในส่วนของรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และภาคเอกชน ให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงแรงงาน พิจารณาตามความเหมาะสม ให้การกำหนดวัน ขั้นต้นเป็นวันหยุดให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นกรณีไป