SME D Bank เผยความสำเร็จ เสริมแกร่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จำนวน 622 ราย  แก้ปมต้นทุนสต๊อกจม ลดภาระธุรกิจกว่า 300 ล้านบาท และเพิ่มรายได้กว่า 270 ล้านบาท ผ่าน “โครงการอุดรอยรั่วเพิ่มรายได้ SME” ที่จัดต่อเนื่อง 9 ครั้งใน 9 จังหวัด ตั้งแต่เดือน มี.ค.-พ.ย.67 ต่อยอดขยายผลความสำเร็จ คัดหัวกะทิ 25 ราย เป็นต้นแบบปลุกผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วไปเดินตาม ดันธุรกิจเติบโตเข้มแข็งยั่งยืน
 
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.67 นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เผยว่า ปัญหาสำคัญประการหนึ่งของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย คือ ขาดความรู้ด้านบริหารจัดการสต๊อกสินค้า ทำให้เกิดต้นทุนธุรกิจสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น อีกทั้ง ยังส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ  ดังนั้น SME D Bank ร่วมกับ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ ISMED ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านบริหารสต๊อก จัด “โครงการอุดรอยรั่วเพิ่มรายได้ SME” อบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรเข้มข้น ในการบริหารสต๊อก เน้นนำไปใช้จริง เช่น หลักสูตรเทคนิคบริหารความสิ้นเปลืองและจุดรั่วไหลในองค์กร เพื่อควบคุมและตรวจสอบป้องกันการรั่วไหลในการดำเนินธุรกิจ และหลักสูตรเปลี่ยนสต๊อกให้เป็นสตางค์ แนะนำบริหารจัดการสต๊อกสินค้าและวัตถุดิบให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เป็นต้น  

โดยโครงการดังกล่าวจัดต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมารวม 9 ครั้ง ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ เชียงราย ขอนแก่น กรุงเทพฯ แพร่ น่าน  อุบลราชธานี ตรัง และนครราชสีมา มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าร่วมรวม 622 รายใน 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.ภาคการผลิต เช่น  ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง เครื่องประดับ  2.ภาคการค้า เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค 3.ภาคบริการ เช่น งานรับเหมาก่อสร้าง ร้านอาหาร เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ผู้ประกอบการที่ผ่านโครงการ สามารถนำแนวทางไปปรับใช้ในธุรกิจจนเกิดผลลัพธ์ ช่วยลดต้นทุนธุรกิจจากการบริหารสต๊อกสินค้าได้รวมกว่า 300 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน  มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการบริหารจัดการสต๊อกที่มีประสิทธิภาพ รวมกว่า 270 ล้านบาท

“ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย มักประสบปัญหาต้นทุนสต๊อกจม โครงการนี้จึงเข้ามาปิดช่องว่าง ด้วยการเติมความรู้และแนะนำการใช้เทคโนโลยี เครื่องมือ ช่วยบริหารจัดการสต๊อกอย่างมีประสิทธิภาพ  ตัวอย่างเช่น บริษัท เค.จี.วัสดุก่อสร้าง จำกัด ธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง จ.กระบี่ แม้จะมีระบบสต๊อกสินค้าอยู่แล้ว แต่ไม่เคยนำข้อมูลตัวเลขมาวิเคราะห์ ทำให้มีสินค้าที่ไม่ทำรายได้ค้างอยู่ในสต๊อกจำนวนมาก เมื่อมาเข้าโครงการนี้ได้ทำการสำรวจความต้องการลูกค้า เพื่อกำหนดการสั่งผลิตให้สอดคล้องกับตลาด ช่วยให้ลดต้นทุนสินค้าคงคลังได้ถึง 200,000 บาท เป็นต้น”นายพิชิตกล่าว
 

นอกจากนั้น  เพื่อต่อยอดความสำเร็จ และเป็นต้นแบบสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายอื่นๆ ให้ความสำคัญกับการบริหารสต๊อก พร้อมเชิดชูเกียรติแก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการที่นำแนวทางบริหารสต๊อกไปใช้ในธุรกิจอย่างโดดเด่น จำนวน 25 รายด้วยการคัดเลือกให้เป็น “SME D Champions 2024”  ซึ่งจะได้รับใบประกาศนียบัตร  พร้อมสิทธิประโยชน์ต่างๆจาก SME D Bank และ ISMED เช่น การประชาสัมพันธ์ สิทธิประโยชน์เข้าร่วมกิจกรรมเสริมศักยภาพธุรกิจต่างๆฟรี อีกทั้งได้รับประโยชน์อีกมากมายจากแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank ที่สำคัญเข้าถึงแหล่งทุนจาก SME D Bank ที่มีผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ช่วยเติมทุนเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เข้าร่วมโครงการ

นายพิชิต กล่าวอีกว่า SME D Bank พร้อมเดินหน้าส่งเสริมและสนับสนุนเพิ่มศักยภาพธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในทุกมิติ  เพื่อสร้างการเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน สามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาต่างๆได้  โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นผ่านแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (https://dx.smebank.co.th/)  รวมถึง ติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารผ่านช่องทางต่างๆเช่น LINE Official Account : SME Development Bank , เว็บไซต์ www.smebank.co.th  และสาขา SME D Bank ทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม  Call Center 1357   

#SMEDBank #เอสเอ็มอี #ข่าววันนี้ #แหล่งทุน #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ #สินเชื่อ